EXIM BANK ชี้แจงกรณีพ่อค้าซาลาเปาเป็นหนี้ไม่รู้ตัว

(20 ก.ย. 67) จากกรณีข่าวของพ่อค้าเร่ขายซาลาเปา อายุ 60 ปี ชาว จ.ระยอง อยู่ดีๆ ถูกธนาคารทวงหนี้ยอดหนี้ 2.5 ล้านบาท และถูก DSI เรียกสอบปากคำเนื่องจากพบความผิดปกติในบริษัทที่มีชื่อของตนเป็นประธาน ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้เรื่องทั้งเรื่องการกู้เงินและเรื่องบริษัทที่ถูกอ้างถึง ก่อนที่จะพบความจริงในภายหลังว่าเรื่องทั้งหมดสืบเนื่องมาจากน้องชายของพ่อค้าเร่คนดังกล่าว ได้แอบนำสำเนาบัตรประชาชนของพี่ชายไปใช้ทำธุรกรรม รวมถึงแอบปลอมลายเซ็นของพี่ชายด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: พ่อค้าซาลาเปาช็อกจู่ ๆ มีชื่อเป็น ปธ.บริษัท โดนธนาคารทวงหนี้ 2.5 ล้าน

ล่าสุดธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK ได้ออกหนังสือชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า

“ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ชี้แจงต่อกรณีปรากฏข่าวเกี่ยวกับผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวรายหนึ่งได้รับการติดตามหนี้จากธนาคารว่า เป็นกรณีเงินกู้ของ EXIM BANK แก่ผู้ประกอบการรายย่อยที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 2565 ต่อมาภายหลังพบว่า ผู้กู้มีข้อพิพาทภายในครอบครัวและไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันการชำระหนี้ที่ระบุในสัญญาเงินกู้

ธนาคารจึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการติดตามหนี้ทางกฎหมาย โดยธนาคารขอยืนยันในเจตนารมณ์และภารกิจการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในวงจรการค้าระหว่างประเทศให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้แม้ในภาวะความยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารมุ่งมั่นทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อยุติที่สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม

โดยขอให้ลูกค้าปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อผูกพันที่มีกับธนาคาร และติดต่อธนาคารโดยตรงหากมีความยากลำบากในการชำระหนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นธรรมภายใต้กรอบกฎหมายต่อไป”