บอร์ด DSI ถกคดีฮั้ว สว. รับเฉพาะความผิดฟอกเงิน ไม่รวมอั้งยี่ซ่องโจร

บอร์ด DSI ถกคดีฮั้ว สว. รับเฉพาะความผิดฟอกเงิน ไม่รวมอั้งยี่ซ่องโจร

28706 มี.ค. 68 14:15   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

บอร์ด DSI ถกคดีฮั้วเลือก สว. 11 เสียงเคาะรับสอบสวนความผิดฐานฟอกเงิน แต่ไม่รับคดีอั้งยี่ซ่องโจร - “ภูมิธรรม” ชี้ไม่ยุ่งเกี่ยวอำนาจ กกต. ย้ำรับเรื่องไม่เท่ากับบอกว่ามีความผิด

(6 มี.ค. 68) ที่กระทรวงยุติธรรม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ส่วนคณะกรรมการ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รองประธานกรรมการ โดยการประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อพิจารณารับทำคดีที่เกี่ยวเนื่องจากกรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีการกล่าวหาว่ามีกระบวนการหรือพฤติกรรมที่มิได้เป็นไปโดยสุจริต


มีรายงานว่าในการประชุมครั้งนี้มีองค์ประชุมทั้งสิ้น 18 ราย โดย 11 เสียงมีความเห็นให้ดีเอสไอกลับไปดำเนินคดีฟอกเงินตามปกติไม่ต้องเสนอเข้าพิจารณาบอร์ด กคพ.


อย่างไรก็ตาม มติบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ มีหลักใจความสำคัญ คือ ถ้าเป็นการรับคดีอาญาอื่นที่ไม่ใช่ความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 ววรคหนึ่ง (2) อาทิ ความผิดฐานอั้งยี่ (มาตรา 209) ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ (มาตรา 116) พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) จะต้องใช้มติ 2 ใน 3 ของกรรมการ กล่าวคือ จำนวน 15 เสียง แต่ถ้าเป็นการชี้ขาดว่าให้เป็นความผิดฐานฟอกเงิน (พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542) เพราะเข้าเงื่อนไขกรณีที่มีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อยู่แล้วนั้น จะเป็นคดีพิเศษได้โดยไม่ต้องอาศัยมติบอร์ด เพราะสามารถใช้คะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งได้เลย


นายภูมิธรรมได้แถลงข่าวภายหลังคณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติด้วยเสียงข้างมาก รับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. เป็นคดีพิเศษแล้ว ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง ของพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยบอร์ดเห็นว่า มีลักษณะการกระทำผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งขัดกับกฎหมายการได้มาซึ่ง สว.


โดยนายภูมิธรรม ชี้แจงเหตุผล พร้อมย้ำอีก 2 ประเด็นสำคัญ คือ การเข้ามาทำคดีครั้งนี้ ไม่ได้ก้าวก่ายหน้าที่และอำนาจ ของ กกต. เป็นเพียงการทำงานร่วมกัน ตามกฎหมายที่แต่ละหน่วยงานถืออยู่ ภายใต้เป้าหมายเดียว คือ ผลประโยชน์ของประชาชน 


อีกประเด็น รองนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย เป็นเพียงขั้นตอนการทำงานเท่านั้น “การที่ DSI รับเรื่องนี้ไว้ มิได้หมายความว่าผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายแล้ว แต่ต้องมีกระบวนการทางกฎหมายอีกมาก ในการที่จะบอกว่าผิดจริง รธน. ก็บัญญัติรับรอง ว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ของผู้ถูกกล่าวหา และประชาชน”



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง