[Exclusive] เปิดเส้นทาง “บัญชีม้า” ลวงข้ามแดน-กักขัง-บังคับ
[Exclusive] เปิดเส้นทาง “บัญชีม้า” ลวงข้ามแดน-กักขัง-บังคับ

ฟังจากปากคนที่ถูกหลอก “พรทิพย์ โม่งใหญ่” พร้อมทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษ เปิดกลลวงที่แก๊งค้ามนุษย์ชักชวนคนไปทำงาน ก่อนจะกักขังบังคับเปิดบัญชีม้า - ตม.สระแก้วเผยปีที่แล้วปีเดียวมีคนไทยผ่านเข้าออกด่านบ้านคลองลึกมากถึง 20,000 คน
ทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษ เวิร์คพอยท์23 และคุณพรทิพย์ โม่งใหญ่ ยังคงเกาะติดประเด็นแก๊งค้ามนุษย์ที่ส่งคนเข้าไปเป็นแรงงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ฐานใหญ่ของมิจฉาชีพในฝั่งประเทศกัมพูชา โดยระหว่างที่ลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางการค้ามนุษย์ ทีมข่าวก็ได้พบกับชายไทย 2 คนที่หนีจากแก็งคอลเซ็นเตอร์มา โดยมีผู้แจ้งเบาะแสมายังศูนยประสานงานช่วยคนไทยในต่างแดน
ทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษได้พูดคุยกับนายประหยัด อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดตราด เล่าว่า ตนและนายจักรกฤษ์ อายุ 35 ปี หนีออกมาระหว่างถูกแก๊งค้ามนุษย์คุมตัวข้ามฝั่งกลับมาเปิดบัญชีธนาคารในฝั่งไทย
นายประหยัดเล่าที่มาที่ไปของตนเองว่า เดิมทีตนเป็นช่างซ่อม แต่ช่วงก่อนหน้านี้ตนตกงาน ก็มีคนในหมู่บ้านมาชักชวน บอกว่ามีงานให้ทำ 3 วัน ได้เงิน 6,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นงานอะไร ถึงอย่างนั้นตนก็ตกลงรับงานไป เพราะเชื่อใจเห็นว่าคนที่มาชวนเป็นเพื่อนหมู่บ้านเดียวกัน เชื่อใจเพื่อนว่าน่าจะพูดจริง
จากนั้นมีรถมารับและพาตนมาส่งที่ชายแดนอรัญประเทศ ก่อนถูกพาข้ามช่องทางธรรมชาติด้านหลังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วพาตัวไปที่บ้านลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น โดนขังอยู่ในนั้น 3 วัน หลังจากนั้นมีคนกัมพูชาพาไปส่งที่ตึก 25 ชั้น ก่อนที่ตนจะถูกพาตัวขึ้นไปชั้น 9 ถูกบังคับให้แสกนหน้ายืนยันบัญชี แต่แสกนไม่ผ่านหลายครั้งจนบัญชีธนาคารถูกระงับ
เช่นเดียวกับนายจักรกฤษ์ อายุ 35 ปี ถูกหลอกมาจากจังหวัดชลบุรี โดยมีคนทักข้อความมาในเฟซบุ๊ก ชักชวนไปทำงานบอกว่าใช้เวลา 3 วัน จากนั้นก็มีรถไปรับที่บ้าน มาส่งที่ชายแดนใกล้จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี ซึ่งติดกับจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา พอข้ามฝั่งมาได้ก็ถูกนำตัวมาขังไว้ที่อาคาร 25 ชั้น ที่ชั้น 9 เป็นเวลานานรวมกว่า 10 วัน และถูกบังคับให้แสกนหน้าเช่นเดียวกับที่นายประหยัดโดน
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ทีมข่าวทราบว่าที่อาคาร 25 ชั้น นั้นมีสำนักงานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ แต่จากข้อมูลที่ได้มาใหม่จากชายไทยทั้ง 2 ที่หนีมาได้ ทำให้รู้แน่ชัดว่ามีแก๊งหนึ่งที่เช่าพื้นที่ชั้น 9 เป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงคน นายจักรกฤษเล่าว่าบรรยากาศภายในชั้น 9 นั้น เป็นเหมือนสำนักงานทั่วไป มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และมีเจ้าหน้าที่คนไทยทำหน้าที่บังคับเหยื่อให้คอยแสกนหน้าเพื่อใช้บัญชีธนาคาร
หลังจากทั้ง 2 คนแสกนหน้าไม่ผ่านหลายครั้งทำให้บัญชีถูกระงับ แก็งคอลเซ็นเตอร์จึงคุมตัวทั้งคู่ ข้ามกลับมาฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อจัดการเรื่องบัญชีให้เรียบร้อย เป็นโอกาสให้ทั้งคู่เสี่ยงตายหนีออกมาได้สำเร็จ
ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนให้ข้อมูลกับทีมข่าวของเราว่า ขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งกัมพูชาต้องการบัญชีม้า หลังหลายธนาคารมีมาตรการคุมเข้มการยืนยันตัวตนในการทำบัญชีต่างประเทศ ทำให้แก็งคอลเซ็นเตอร์พยายามหาเหยื่อในกลุ่มคนว่างงานและผู้สูงอายุต่างจังหวัด มีการจัดรถรับส่งถึงหน้าบ้าน เมื่อมีคนหลงกลเดินทางข้ามชายแดนมาแล้ว จะถูกบังคับให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อเอาไปทำธุรกรรมนิติบุคคล
สำหรับช่องทางธรรมชาติที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จ้างกลุ่มคนกัมพูชานำคนไทยหรือเหยื่อเดินทางข้ามแดนเข้าออกระหว่างไทยและกัมพูชา เป็นเส้นทางธรรมชาติที่อยู่ไม่ห่างจากตลาดโรงเกลือ เนื่องจากจุดนี้มีห้างสรรพสินค้าและธนาคาร หากอ้างอิงข้อมูลจากนายประหยัดระบุว่า มีกลุ่มชาวกัมพูชาพาเดินผ่านป่า ใกล้ด้านหลังห้างสรรพสินค้า เพื่อไปฝั่งกัมพูชา จะสอดคล้องกับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกคน อายุ 22 ปี ระบุว่า ถูกคนขี่รถจักรยานยนต์พามาที่ช่องทางธรรมชาติ ให้เดินเข้าไปในป่า มีคนมารอรับ จากนั้นได้มุดรั้วลวดหนามข้ามไปฝั่งกัมพูชา
จากข้อมูลเหล่านี้ ทีมข่าวเข้าสำรวจจุดที่คาดว่าเป็นช่องทางธรรมชาติ โดยจุดนี้อยู่ไม่ห่างจากห้างสรรพสินค้า บริเวณใกล้เคียงมีโรงซ่อมรองเท้า และถัดไปเป็นป่าราบ มีต้นไม้สูงเป็นจุดๆ คนในพื้นที่ระบุว่าเป็นที่ดินเอกชน เมือมองไปฝั่งชายแดนกัมพูชาจะเห็นอาคารสูงสีเทาที่เป็นจุดพักคอยก่อนถูกส่งตัวไปที่อื่น
ทีมข่าวลงพื้นที่เดินสำรวจจุดช่องทางธรรมชาติ โดยได้ประสานกับทางทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา เพราะที่ดังกล่าวเป็นที่ดินเอกชน จากการสำรวจพบว่า พื้นที่ได้ทำการล้อมรั้วหนามหีบเพลงทั้งหมด 4 ชั้น เริ่มจากด้านในสุดริมชายแดน ติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีจุดเฝ้าของเจ้าหน้าที่ทหารพราน 24 ชั่วโมง ทหารพราน ยืนยัน ตั้งแต่ล้อมรั้วมา ไม่มีคนลักลอบข้ามแดนในจุดนี้ได้
ซึ่งคำยืนยันดังกล่าวก็สวนทางกับกลุ่มเหยื่อที่ยืนยันว่าเพิ่งข้ามแดนมายังฝั่งไทย ในช่วงเช้าของวันที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจ และชายวัย 22 ปีเพิ่งข้ามชายแดนไปเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นคนละจุดกัน
ทีมข่าวโต๊ะรายงานพิเศษได้สัมภาษณ์ข้อเท็จจริงกับ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ระบุว่า ในพื้นที่การดูแลของหน่วยตนเอง เป็นพื้นที่ชายแดนยาวประมาณ 65 กิโลเมตรจากพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา 165 กิโลเมตร
นับตั้งแต่รัฐบาลสั่งดำเนินการซีลชายแดน ทางหน่วยได้ทำระบบ 3 ชั้น คือ ล้อมรั้วลวดหนามตรงประชิดชายแดน ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตั้งด่านสกัดบนถนน และมีจุดเฝ้าระวังที่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำ 24 ชั่วโมง พร้อมกับการลาดตระเวน ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถลดปัญหาการลักลอบข้ามแดนไปได้ประมาณ 50 เปอรเซนต์ แต่ยอมรับว่าในช่องทางธรรมชาติที่มีความยาว และกำลังพลที่น้อย ทำให้มีช่องโหว่ เกิดการลับลอบได้
สำหรับสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปตในขณะนี้มีการกระจายตัวไปตามเมืองต่างๆ ที่ห่างออกไปจากปอยเปต หลังจากที่จเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดปฎิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาบุกตึกใหญ่ในปอยเปตจับกุมแก็งคอลเซ็นเตอร์นายทุนจีน ต่อมามีการส่งคนไทย 119 คนกลับเข้าแดน โดยในจำนวนนี้มีผู้ร่วมขบวนการทำผิดกฎหมายด้วย
สำหรับมาตรการป้องกัน และสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พ.ต.อ. ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว อธิบายว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เพิ่มระดับการคัดกรองคนไทยและต่างชาติที่เข้าออกด่านชายแดนจ.สระแก้ว โดยที่จุดตรวจผ่านแดนบ้านคลองลึก ปี 2567 มีคนไทยเดินทางเข้าออกประมาณ 20,000 คน ซึ่งในกลุ่มคนจำนวนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้คัดกรองแยกประเภทเอกสารขอข้ามแดนระหวาง บอร์ดดิ้งพาส กับพาสปอร์ต
พบว่ากลุ่มคนไทยที่ถือพาสปอร์ตสามารถอยู่ในกัมพูชา 14 วัน และในกลุ่มนี้เดินทางมาต่ออายุเข้าออกหลายครั้งในลักษณะ วีซ่ารัน จากการคัดกรองพบว่าในกลุ่มนี้มีคนไทยในพื้นที่ภาคเหนือ เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอนมาทำงานเป็นล่ามให้กับคนจีน ทางเจ้าหน้าที่จึงระงับการเดินทาง ประกอบกับการคัดกรองสอบถามคนไทยที่จะข้ามไปกัมพูชาแต่ไม่มีสถานที่ชัดเจนหรือไม่รู้ตำแหน่งงานที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่จะระงับการเดินทางและให้ลงนามเอกสารยินยอม
ในขณะนี้ระงับการเดินทางของคนไทยไปแล้ว 125 คน และปฏิเสธการเดินทางเข้าออกของคนจีนไปแล้ว 165 คน และชาติอื่นๆ เช่น กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม เป็นต้น
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดโปงขบวนการ 'จีนเทา' หลอกเหยื่อแอฟริกาข้ามทวีป คาดยังมีเหยื่อตกค้างในอาณาจักร ไท่ฉาง 1 และ 2 อีกกว่า 4,000 คน

สสส.เตือน!!! พิษสุนัขบ้าอันตรายถึงชีวิต พบเสียชีวิตแล้ว 2 ราย หากถูกกัด ข่วน รีบล้างแผล พบแพทย์ทันที ควรพาหมา แมว ฉีดวัคซีน

พบ"ปลาหมอคางดำ"ระบาดแนวชายฝั่งอ่าวแสมสาร กระทบระบบนิเวศ เจ้าหน้าที่เร่งวางแนวทางแก้ไขให้ชาวประมงจับมาเป็นเหยื่อล่อ
