หนุ่มซิ่งแซงขวาทางสามแยกไม่พ้นชนยับ 5 คัน

จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 ส.ค.67 พ.ต.ต.สุวสันต์ ตรีเหลา สว.จร.สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักเฉี่ยวชนหลายคันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ จึงไปตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

ที่เกิดเหตุเป็นสามแยกฟูจิ พบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น CX 30 สีแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพพลิกตะแคงขวางอยู่กลางถนน มีนายภูษณ อายุประมาณ 30 ปี เป็นคนขับขี่ ใกล้กันพบรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพรถถูกชนพังเสียหายครึ่งคัน ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัสขาขาด ทราบชื่อต่อมาคือ นายวันดี มีบาดแผลข้อเท้าฉีกขาด เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งนำตัวส่ง รพ.จุฬาฯ นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังมีรถยนต์ชาวบ้านได้รับความเสียหายอีก 4 คัน

ล่าสุดวันนี้ 5 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เกิดเหตุและได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเทพ อายุ 43 ปี วินจักรยานยนต์บริเวณที่เกิดเหตุได้เล่าว่า เมื่อ 6โมงช่วงเย็นในวันเกิดเหตุต้นเหตุรถมาสด้าดังกล่าววิ่งขวาออกมาตรงกลางถนนด้วยความเร็วพร้อมทั้งเสียงเร่งเครื่องที่ดังมาก โดยตนเห็นรถยนต์ดังกล่าวอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร คาดว่าพอออกขวามาแล้วตกใจรถอีกเลนหนึ่ง จึงหักหลบเลี้ยวเข้าซ้ายแล้วมาชนรถของไรเดอร์ดังกล่าว โดยจังหวะที่ตนเห็น รถมาสด้าก็ได้ชนไรเดอร์แล้ว หลังจากนั้นตนก็รีบเข้าไปช่วยคนขับรถมาสด้าออกมาจากรถก่อนเพราะเห็นว่าไฟกำลังลุก เกรงว่ารถจะระเบิด พอคนขับรถดังกล่าวได้ออกมาและคนขับรถมาสด้าก็เลยกล่าวว่าไรเดอร์คนเจ็บเป็นอะไรบ้าง ภายหลังตนก็ได้เข้าไปดูไรเดอร์ด้วยก็เห็นว่า “ไรเดอร์ขาซ้ายขาดแล้ว” 

ผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามไปยังลูกสาวของไรเดอร์ผู้บาดเจ็บ แจ้งว่าตอนนี้คุณพ่อได้ออกจากห้องผ่าตัดแล้ว เมื่อช่วงเวลาตี 2 พักอยู่ห้องพักฟื้น มีอาการเจ็บปวดที่บริเวณขาที่ขาด เวลา 11 โมงถึงจะเข้าเยี่ยมได้ ตอนนี้ตนกำลังเตรียมเอกสารเพื่อเดินทางเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาลจุฬา 

เบื้องต้นตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดจึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อสอบปากคำผู้ขับขี่รถยนต์คันสีแดงถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บสาหัส

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปพบภรรยาคนเจ็บ เล่าว่า ตอนนี้อาการของไรเดอร์ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว หลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อคืนนี้โดยต้องตัดขาซ้ายออก ส่วนทางด้านคดีหลังเกิดเหตุลูกสาวได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องรอ ส่วนทางคู่กรณีเมื่อคืนนี้ได้มาที่โรงพักแต่ให้แม่เป็นคนพูดคุยเนื่องจากคนขับยังไม่พร้อมพูดคุย

ซึ่งเบื้องต้นแม่คู่กรณีบอกว่าพร้อมรับผิดชอบแต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียด เนื่องจากรอผู้บาดเจ็บพร้อมพูดคุย ซึ่งวันนี้แม่ของคนขับก็มาเยี่ยมและบอกว่าจะรับผิดชอบ แล้วบอกว่าเดี๋ยวอาจจะพาลูกชายเข้ามาเยี่ยม