“ศิริกัญญา” อัด “แพทองธาร” มือไม่ถึง ทำเศรษฐกิจแย่จนชาวบ้านร้องหา “ลุงตู่”
“ศิริกัญญา” อัด “แพทองธาร” มือไม่ถึง ทำเศรษฐกิจแย่จนชาวบ้านร้องหา “ลุงตู่”

“ศิริกัญญา” อัดแรง “แพทองธาร” มือไม่ถึง ทำเสียของ บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว จนชาวบ้านร้องหา “ลุงตู่” ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจรัฐบาลที่แล้วเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี
(25 มี.ค. 68) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งด้านเศรษฐกิจ แต่ความสำเร็จที่ได้มาเป็นเพราะโชคช่วย เพราะนายกฯ ไม่มีความรู้และไม่มีความเชี่ยวชาญจนบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวคามือ ไม่เหมือนกับที่โฆษณาไว้ จนทำให้ประชาชนหวนนึกถึงรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารว่าเศรษฐกิจดีกว่า ทั้งที่เศรษฐกิจก็เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี
“ถึงแม้จะมีนายกฯ แพ็กคู่ มา 7 เดือนแล้ว เห็นการชัดๆ เต็มสองตา สัมผัสได้ทุกรูขุมขน เข้าใจกระจ่างแจ้ง ว่าคุณไม่ได้เก่งจริง อย่างที่โอ้อวด
ความผิดมหันต์ที่ให้อภัยไม่ได้ ของแพทองธาร ในการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลว คือ ทำให้คนร้องหา ลุงตู่ คิดถึง ลุงตู่ ทั้งที่เศรษฐกิจในช่วงคุณประยุทธ์บริหาร เลวร้ายขนาดไหน เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี” ศิริกัญญากล่าว
พร้อมตั้งคำถามว่า นายกฯ แพทองธาร รู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป ความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า รายได้ฟืดเคือง ค่าครองชีพสูง หนี้ครัวเรือนท่วม โรงงาน-ห้าง-ร้าน-บริษัททยอยปิดตัว คนตกงาน เศรษฐกิจโตต่ำ ปัญหาเฉพาะหน้าแก้ไม่ได้และปัญหาโครงสร้างก็ไม่ได้รับการพูดถึงอย่างจริงจัง ขณะที่การแถลงตัวเลขของ รมว.พาณิชย์ ก็สวนทางกับความเป็นจริง
ในยุคของรัฐบาลแพทองธาร รายได้เกษตรกรตกต่ำแทบทุกพืช ทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง รวมถึงข้าวโพด โดยรายได้ชาวนาลดลงตั้งแต่นาปีถึงนาปรังเกือบ 20% ล่าสุดข้าวราคาเหลือตันละ 5,000 บาท จากเดิมที่เคยทะลุ 20,000 บาท
ส่วนชาวไร่อ้อย เปิดหีบฤดูกาลผลิต 67/68 ประกาศราคาอ้อยขั้นต่ำเหลือตันละ 1,160 บาท จากฤดูกาลที่แล้วทะลุตันละ 1,400 บาท ราคาหาย 20% รายได้ตกไป 14% ขณะที่รายได้ของเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังตกหนัก 40% ราคาขณะนี้อยู่ที่ กก.ละ 90 สตางค์ ส่วนรายได้ของชาวไร่ข้าวโพดลดลง 20% ปัญหาเงินในกระเป๋าของเกษตรกรที่แฟบลง ไม่โทษกระทรวงพาณิชย์ ไม่โทษกระทรวงเกษตรฯ แต่ปัญหาอยู่ที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่ใส่ใจแก้ปัญหา
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า หลังจากนายกฯ แพทองธาร บริหารงานได้ 6 เดือน ประชาชนต้องกังวลกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และพลังงาน แต่นายกฯ กลับสนใจแต่เรื่อง GDP เท่านั้นยังให้สัญญาเรื่องค่าแรง 400 บาทต่อวัน เพื่อให้ความหวังลมๆ แล้งๆ แม้รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีการปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก
แม้แต่นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นก็ยังได้รับผลกระทบจากการที่ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ และอย่าคิดว่าบริษัทใหญ่ๆ เจ้าสัวนายทุนจะรอดทุกราย แนวโน้มไม่สู้ดี เพราะ 925 บริษัทกำไรลดลงจากปีก่อน เหลือไม่กี่บริษัทที่ยังเติบโตได้ในประเทศนี้ ถ้าไม่มีสัมพันธ์อันแนบชิดกับภาคการเมืองปัจจุบันก็เป็นกลุ่มที่มีสัมปทานภาครัฐ
ปัญหาแท้จริงอยู่ที่การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด แก้ปัญหารายวันขายผ้าเอาหน้ารอด เศรษฐกิจไทยไม่ใช่ไม่ดี ใครว่าไม่ดีตนเถียงขาดใจ ตอนนี้ดีสุดๆแล้ว แต่หลังจากนี้ไปจะเป็นขาลง
นอกจากนี้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.8 แสนล้านบาท ว่า ล้มเหลวและกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น และล่าสุดยังมีโครงการซื้อหนี้ประชาชน ซึ่งตนไม่ติดหากจะช่วยเหลือประชาชน แต่ควรรอให้โครงการเก่าดำเนินการไปได้สักพักก่อน นอกจากนี้ยังมีการเอานโยบายในอดีตมาปัดฝุ่นทำใหม่ทั้งกองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร รีแบรนด์บ้านเอื้ออาทรเป็นบ้านเพื่อคนไทย แต่วันนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว เศรษฐกิจฐานรากเปลี่ยนไป
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
