ปิดร้านหนี? พาณิชย์จังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกร้านทุเรียนดราม่า ไร้เงาเจ้าของร้าน ปิดร้านเงียบ

ปิดร้านหนี? พาณิชย์จังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกร้านทุเรียนดราม่า ไร้เงาเจ้าของร้าน ปิดร้านเงียบ

514230 ส.ค. 67 16:30   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ปิดร้านหนี? พาณิชย์จังหวัดพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกร้านทุเรียนดราม่า ไร้เงาเจ้าของร้าน ปิดร้านเงียบ ตัดสายทิ้ง พบเพียงเศษเปลือกไข่ถูกปาใส่หน้าร้าน

จากกรณีที่มีกระแสดราม่าเกี่ยวกับเรื่องลูกค้าไปซื้อทุเรียนจากร้านขายทุเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุรินทร์ แต่กลับได้ทุเรียนที่บูดเน่ามีรสเปรี้ยว จนทำให้แม่ค้าออกมาไลฟ์สดด่ากราด จนชาวสุรินทร์รับไม่ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


(30 ส.ค.67) ล่าสุดสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปยังร้านทุเรียนดังกล่าว พร้อมกับสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ , ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ , สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-5 สุรินทร์ , กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ , สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ , เทศบาลเมืองสุรินทร์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองสุรินทร์ แต่กลับพบว่า ร้านทุเรียนดังกล่าวได้ปิดเงียบไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.67) 


เจ้าหน้าที่ได้พยายามที่จะโทรไปที่เบอร์ของเจ้าของร้าน แต่มีการตัดสายทิ้ง นอกจากนี้ยังพบว่า บริเวณหน้าร้านมีเศษเปลือกไข่แตกกระจายอยู่ คาดว่าน่าจะมีชาวบ้านที่ไม่พอใจเกี่ยวกับการที่เจ้าของร้านไลฟ์สดด่าคนสุรินทร์


ทั้งนี้ นางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เผยว่า เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.67) ได้มีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ และทางพาณิชย์จังหวัดทราบเรื่องในประเด็นดังกล่าวแล้ว และในวันนี้ (30 ส.ค.67) ได้มาลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างที่ได้มีการร้องเรียนเข้ามาหรือไม่ 


นอกจากนี้ก็ยังมีหน่วยงาน หลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาเพื่อร่วมทำการตรวจสอบไปพร้อมกัน อาทิเช่น ป้ายแสดงราคา , เครื่องชั่ง , คุณภาพของทุเรียน ฯลฯ แต่เนื่องจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่าร้านปิด เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในร้านได้ แต่หลังจากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาเช็กเป็นระยะๆ ว่าทางร้านจะเปิดหรือไม่ หากพบว่าร้านเปิด เจ้าหน้าที่จะทำการเข้าตรวจสอบในทันที


แต่ถ้าหลังจากที่มีการตรวจสอบแล้ว และพบว่าทุเรียนที่วางจำหน่ายนั้น เน่าบูด ตามที่โซเชียลได้มีการแชร์ จุดนี้ต้องไปดูข้อกฎหมายอีกทีว่าเข้าข้อกฎหมายข้อไหน และจะมีบทลงโทษยังไงต่อทางร้าน ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง รวมถึงบริบทหลายๆส่วน


ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้ข้อมูลว่า จากกรณีดังกล่าวอาจจะมีการเข้าข่ายเรื่อง พรบ.อาหาร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อีกทีหนึ่ง แต่ถ้าตรวจสอบแล้วสินค้ามีอันตรายต่อผู้บริโภคจริง อาจจะมีบทลงโทษในข้อกฎหมายต่อไป แต่ต้องมีการตรวจสอบที่หน้างานจริงๆ เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ค้าด้วย 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง