ลุ้นช่วยชีวิตคนแรก"ดินถล่ม"อุโมงค์รถไฟ เผยสัญญาณดี

ลุ้นช่วยชีวิตคนแรก"ดินถล่ม"อุโมงค์รถไฟ เผยสัญญาณดี

61328 ส.ค. 67 18:51   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“อนุทิน” คุย บ.ก่อสร้าง ต้องยอมเสียทรัพย์สิน แลกชีวิตคนงาน เผยใช้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมารับเหยื่อดินถล่ม ล่าสุด ทั้ง ฮ.- รถ เตรียมพร้อมแล้ว

(28ส.ค.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมายังบริเวณที่เกิดเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านท่าหีบ ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณโครงการก่อสร้าง ช่วงสถานีคลองขนานจิต ซึ่งมีแรงงานติดอยู่ด้านใน 3 ราย ตลอดทั้งวัน ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


นายอนุทิน เปิดเผยว่า ทีมกู้ภัยพยายามอย่างเต็มที่และเข้าใกล้แรงงานแล้ว เหลืออีกเพียงเมตรกว่าเท่านั้น แต่มันมีอุปสรรคเรื่องหิน ทำให้การฝ่าเข้าไปยากลำบาก หากได้ตัวแล้วเราต้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของโรงพยาบาลที่จะใช้รักษา ที่ได้เลือก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เนื่องจากมีความพร้อมทั้งบุคลากรการแพทย์และเครื่องมือไปจนถึงได้เตรียมการให้เฮลิคอปเตอร์ รถพยาบาลสำหรับขนส่งผู้ป่วย แต่ที่สุดแล้วก็ต้องให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาเพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย


"เราทุกคนมาอยู่ตรงนี้ อย่างมีความหวัง และข้อมูลต่าง ๆ มันก็ทำให้เราเชื่ออย่างนั้น เรามาช่วยเหลือคน ที่ทราบแน่นอนคือด้านในมีอากาศหายใจ ก็หวังว่าเขาจะติดอยู่ในรถซึ่งในรถก็อาจจะมีขนมขบเคี้ยว และมีน้ำให้ได้เอาชีวิตรอด ผมยังมีหวังอยู่ตลอด" นายอนุทิน ระบุ 


เมื่อถามถึงข้อมูลเรื่องการเคาะจากด้านนอก แล้วมีสัญญาณตอบรับจากแรงงานที่ติดอยู่ในอุโมงค์ นายอนุทิน ตอบว่า เป็นรายงานจากทางผู้รับเหมาก็ขอให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ 


"ที่ทำได้ชั่วโมงนี้คือการขุด เราเข้าไปได้ทีละ 2 คน เราก็ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับคนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย รถกู้ภัยและรถพยาบาลที่นำเข้ามา ก็มีไว้ใช้ สำหรับขนย้ายผู้ป่วยไปจนถึงรับมือทุกเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้น" นายอนุทิน ระบุ


เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีความไม่เข้าใจกันระหว่างเอกชนกับทางรัฐ นายอนุทิน ตอบว่า ทางเอกชนเขามีข้อมูลอยู่ในมือมากกว่า เขาเข้าใจสถานการณ์มากกว่าทางภาครัฐก็ต้องเป็นฝ่ายสนับสนุน ซึ่งทาง ปภ.ได้อำนวยความสะดวกเรื่องอุปกรณ์ให้หมดแล้วทางทีมกู้ภัยจากกรุงเทพฯก็เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน


"แต่ผมบอกเขาไปแล้วว่าเรื่องชีวิตคนสำคัญเป็นอันดับ 1 ไม่ต้องไปสนใจเรื่องทรัพย์สิน ทางเจ้าของบริษัท เขาเข้าใจแล้ว" นายอนุทิน 


ต่อมาเวลา 16.20 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้เฮลิคอปเตอร์และรถกู้ชีพเดินทางมารอสแตนด์บายในจุดเกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นำผู้ประสบภัยออกมาและมีการวินิจฉัยของแพทย์ ความเหมาะสมที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลในลักษณะใด ทางทีมซัพพอร์ตก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทันที


"ทางนี้เชื่อว่าเราจะสามารถช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยด้านในออกมาได้ เนื่องจากสัญญาณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณชีพ ที่บ่งบอกได้ว่ายังมีชีวิตอยู่ หรือการทดสอบอากาศที่ใช้ในการหายใจ" นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวอีกว่า โดยทีมกู้ภัยที่เข้าไปด้านในได้ใช้ภูมิปัญญาชาวโดยบ้านพ่นควันบุหรี่เข้าไปที่กองดิน เมื่ออากาศข้างนอกมีมากกว่าควันบุหรี่จะถูกลมพัดเข้าไปในกองดิน ซึ่งบ่งบอกได้ว่า ด้านในกองดินมีโพง หรือมีพื้นที่ให้อากาศได้แทรกตัวเข้าไป อย่างน้อยผู้ประสบภัยก็น่าจะมีอากาศในการหายใจ


"ประกอบกับเราคาดการณ์ว่าผู้ประสบภัยรายแรกที่อยู่ในรถดัมพ์น่าจะมีอาหารและน้ำอยู่บางส่วนที่พอจะช่วยในการประทังชีวิตได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ถึงแม้ว่าตอนนี้เวลาจะเกิด 72 ชั่วโมง แต่เรายังเห็นสัญญาณชีพอยู่ ก็ทำให้เรามีความหวัง ซึ่งส่งสัญญาณที่ดี" นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวอีกว่าส่วนกรณีเรื่องที่มีข่าวว่าได้ยินเสียงเคาะมาจากภายในนั้น เป็นการบอกเล่าของคนงานที่อยู่ภายในว่าได้ยินเสียงเคาะตอบกลับมา ถึงแม้ว่าจะเหลือ 1 เมตรสุดท้าย ที่จะขุดถึงตัวรถดัมพ์ แต่ถือว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร เพราะพื้นที่ที่ใช้ในการปฏิบัติงานค่อนข้างแคบ สามารถให้คนงานไปขุดดินออกมาได้ที่ 2 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปปฏิบัติงาน บางครั้งเจอหิน ก็ต้องใช้เครื่องแย็กหินก่อน ถึงจะขุดต่อได้


นายอนุทิน บอกด้วยว่า ทั้งนี้ไม่อยากให้กดดันผู้รับเหมา ถึงแม้ว่าในช่วงแรกจะมีท่าทีที่อาจจะมีความเป็นห่วงในเรื่องของทรัพย์สิน ซึ่งตนก็ได้มีการพูดคุยไปแล้วว่าอย่าเพิ่งไปห่วงเรื่องทรัพย์สิน ต้องช่วยชีวิตคนออกมาให้ได้ก่อน และถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มว่าจะนำตัวคนแรกออกมาได้ แต่ก็ยังเหลืออีก 2 คน ที่ยังต้องปฏิบัติการต่อ 


"ซึ่งคนที่ 2 อยู่ที่ระยะ 8 เมตร คนสุดท้ายอยู่หากออกไป 14 เมตร และมีแนวโน้มว่าอาจจะไม่ได้อยู่ในรถ แค่นี้ก็ยังจุกอกแล้ว" นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ส่วนสัญญาณชีพที่มีการแสดงไม่เท่านั้น น่าจะเป็นเรื่องของระยะทางที่ใช้ตรวจวัดมากกว่า ส่วนรถพยาบาลที่คอยสแตนด์บายภายใน ไม่ใช่เพียงแค่สแตนด์บายรับผู้ประสบภัยอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังคอยช่วยเหลือทีมกู้ภัยและคนงานที่เข้าไปช่วยปฏิบัติการด้วยเช่นเดียวกัน


นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องฝนที่ตกลงมาในตอนแรกที่ทำท่าว่าตกปรอย ๆ แต่ตอนนี้ได้เบาบางลงก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีอีกเช่นกัน ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ได้เห็นตัวบุคคล แต่ว่ามีการตอบสนองมีสัญญาณชีพ


"ตอนนี้คาดหวังแค่ว่าขอให้เจอตัวของรถดัมพ์จะเจอส่วนไหนก็ขอให้เจอ จากนั้นค่อยมาวางแผนว่าจะเอาตัวผู้ประสบภัยออกมาอย่างไร ซึ่งตอนนี้มีอยู่แค่แผนเดียว และเป็นแผนที่ปลอดภัยที่สุด" นายอนุทิน ระบุ


นายอนุทิน กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนเรื่องการส่งตัวไปโรงพยาบาล ซึ่งในตอนแรกวางแผนไว้ว่า จะพาผู้ประสบภัยไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลปากช่องนานา แต่เนื่องจากตนมองว่าโรงพยาบาลที่มีศักยภาพที่สุด ถึงแม้ว่าจะไกลออกไปอีกนิด แต่มีความพร้อมในทุกด้าน จึงไปเปลี่ยนให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลมหาราชแทน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน รองนายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางกลับทันที เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่อยู่รอจนเอาผู้ประสบภัยคนแรกออกมาให้ได้ก่อน รองนายกฯ กล่าวว่า มีภารกิจต่อ จะมาติดตามภารกิจต่อพรุ่งนี้ เพราะยังเหลือการค้นหาอีก 2 คน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง