ดอกมะลิ ราคาพุ่ง 900 บาท/กก.

ดอกมะลิ ราคาพุ่ง 900 บาท/กก.

85806 ส.ค. 67 16:01   |     Tum1

ดอกมะลิ ราคาพุ่ง 900 บาท/กก. ขณะที่สวนมะลิเจอเชื้อรา-หนอนผีเสื้อระบาด

วันที่ 6 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาดอกมะลิ จากแม่ค้าร้อยพวงมาลัยขาย ที่ตลาดเทศบาล 1 หรือ ตลาดใต้ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งแม่ค้าหลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้ราคาดอกมะลิปรับขึ้น จากเมื่อวานนี้ ( 5 ส.ค.67) กิโลกรัมละ 600-700 บาท เป็นกิโลกรัมละ 900 บาทแล้ว เนื่องจาก ความต้องการของตลาดมีมากกว่า

 

นางสาวพัชรี ศรีไตรรัตน์ แม่ค้าขายพวงมาลัย กล่าวว่า ราคาดอกมะลิในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ บางปีก็ราคาถูก บางปีก็ราคาแพง ส่วนในปีนี้คาดว่า ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาทอย่างแน่นอน และวันนี้ตนต้องปรับราคาขายขึ้น เนื่องจาก ต้นทุนที่ปรับราคาขึ้นมาแล้ว จากเดิมขายราคาเริ่มต้น พวงละ 20 บาท ปัจจุบันต้องขายพวงละ 30 บาท แต่ถ้าหากดอกมะลิราคาถูก ก็สามารถขายเพียงพวงละ 10 บาทได้ และเมื่อดอกมะลิปรับราคาถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาท ก็จำเป็นต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นไปอีก


 

เช่นเดียวกับนางสาวกัลยกร โคตจักร์ แม่ค้าขายพวงมาลัย ระบุว่า ช่วงนี้ที่จังหวัดพิษณุโลก มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและไม่ค่อยมีแสงแดด ส่งผลให้ราคาดอกมะลิปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ประกอบใกล้ช่วงเทศกาลวันแม่ ซึ่งตรงกับวันพระ จึงทำให้ราคาดอกมะลิสูงขึ้น จากเดิมเคยซื้อมากิโลกรัมละ 400-500 บาท ปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 900 บาทแล้ว จึงคาดว่า วันแม่ปีนี้ราคาดอกมะลิน่าจะเกินกิโลกรัมละ 1,000 บาท 

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาพวงมาลัยบางแบบ และปรับรูปแบบลดการใช้ดอกมะลิให้น้อยลง เพื่อให้ขายราคาเดิมได้ในบางแบบ ส่วนพวงมาลัยพวงใหญ่ จะไม่รับทำ เพราะเกรงว่าจะขายไม่ได้กำไร ไม่ได้เงินทุนคืน จึงเน้นขายพวงมาลัยแบบพวงเล็กๆ เป็นหลัก



ส่วนที่บ้านดินทอง ตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เกษตรกรผู้ปลูกต้นมะลิ กำลังเผชิญปัญหาผลผลิตเสียหาย หลังจากในพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ต้นมะลิที่ปลูกไว้พื้นที่ประมาณ 1 งาน ได้รับความเสียหายจากเชื้อรา (ดอกม่วง) และหนอนผีเสื้อระบาด จนทำให้ต้องตัดยอดทิ้ง เพื่อควบคุมไม่ให้ต้นที่เหลือได้รับความเสียหายไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ผล ต้นมะลิที่เหลือก็กำลังถูกศัตรูพืช โดยเฉพาะหนอนผีเสื้อ เข้าไปอยู่ในดอกมะลิจำนวนมาก

 

นางสาวลาวัลย์ จุทมาส เกษตรกรผู้ปลูกต้นมะลิ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝน แม้จะพยายามนำจุลินทรีย์ สารชีวภาพฉีดพ่น กำจัดหนอนผีเสื้อแล้ว แต่ก็เอาไม่อยู่ ซึ่งถ้าเป็นฤดูร้อนจะยังสามารถควบคุมได้ หรือแทบจะไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงเพิ่มเติมเลย จึงทำให้ในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้ จะเก็บดอกมะลิขายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

ส่วนตัวปลูกต้นมะลิมานานหลายปีแล้ว ตลอดทั้งปีจะเก็บดอกมะลิขายให้แก่แม่ค้าพวงมาลัยในชุมชน ราคากิโลกรัมละ 200-400 บาท รวมถึงช่วงนี้ด้วย แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของหนอนผีเสื้อ และโรคเชื้อราดอกม่วง ทำให้ผลผลิตลดลง จากเดิมได้วันละ 5 กิโลกรัม แต่วันนี้เก็บขายได้เพียงไม่กี่ขีดเท่านั้น 



ช่วงนี้การเก็บดอกมะลิ ประสบปัญหามาก เพราะมีหนอนผีเสื้อเข้าไปกัดกินเสียหาย วิธีการเลือกเก็บดอกมะลิ หากพบว่าดอกช้ำ ดอกมะลิน้ำหนักเบา ก็จะมีหน่อยอยู่ด้านใน ก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า ก็ต้องนำไปคัดแยกอีกครั้งหนึ่งก่อน จึงทำให้ในแต่ละวัน เก็บขายไม่ได้น้อย และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ต้องตัดยอดต้นมะลิไปครึ่งแปลงก่อน และเตรียมจะตัดที่เหลือในอีกไม่กี่วัน และต้องใช้เวลาประมาณ 45 วัน จึงจะสามารถเริ่มเก็บดอกมะลิขายได้ใหม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องใช้สารแคมีในแปลงดอกมะลิ 



และด้วยจำนวนดอกมะลิ ที่เก็บได้ไม่พอขาย แต่ที่สวนยังมีดอกพุดอีก 5 ต้น แม่ค้าพวงมาลัยมาเหมาเอาไปใช้แทนดอกมะลิทั้งหมดแล้ว และให้ราคาสูงขึ้นด้วย จากเดิมเคยขายได้กิโลกรัมละ 100 บาท ปัจจุบันได้กิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนดอกรัก ปกติกิโลกรัมละ 100 บาท ปัจจุบันราคาที่ตลาดขายกิโลกรัมละ 240 บาทแล้ว ส่วนการดูแลดอกรักและดอกพุดนั้น เป็นดอกไม้ที่ดูแลง่ายกว่าดอกมะลิมาก 

สำหรับสาเหตุที่ปีนี้ราคาดอกมะลิ ดอกรัก และดอกพุด มีราคาสูงขึ้น ก็เพราะนอกจากเดือนนี้จะเป็นช่วงเทศกาลวันแม่แล้ว ยังตรงกับวันพระด้วย จึงทำให้มีความต้องการใช้มากกว่าผลผลิตที่ออกสู่ตลาด 

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง