"ลิลลี่ เหงียน"โดนปลอมเฟซบุ๊กมากว่า 50 เพจ หนักถึงขั้นตัดต่อภาพลามก

"ลิลลี่ เหงียน"โดนปลอมเฟซบุ๊กมากว่า 50 เพจ หนักถึงขั้นตัดต่อภาพลามก

33904 ก.ย. 67 19:37   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"ลิลลี่ เหงียน"แจ้งตร.ไซเบอร์ โดนมิจฯปลอมเฟซบุ๊กมากว่า 50 เพจ ทั้งโปรโมทเว็บพนันออนไลน์ หวยใต้ดิน ดูหมิ่นเบื้องสูง วิจารณ์เกี่ยวกับการเมือง ตัดต่อเป็นภาพโป๊เปลือย

(4ก.ย.67) เวลา 12.00 น. ที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) "ลิลลี่ เหงียน" หรือ ลิลลี่ วันมะนี พอนสะหวัน , น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ลูกหมี อายุ 45 ปี นางแบบชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลังถูกมิจฉาชีพนำภาพและชื่อไปทำเฟซบุ๊กปลอม ทำให้เสียชื่อเสียง และหลอกลวงประชาชน 


ลิลลี่ เหงียน เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้เพราะมีความเดือดร้อนกังวลใจเนื่องจากพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่ปลอมทั้งชื่อและภาพของตน พร้อมเบอร์ติดต่องานของผู้จัดการที่เป็นเบอร์จริง โดยมีเพจฯปลอมรวมแล้วกว่า 50 เพจ ที่มีการนำไปโปรโมทเว็บพนันออนไลน์ หวยใต้ดิน ดูหมิ่นเบื้องสูง วิจารณ์เกี่ยวกับการเมือง และนำภาพไปตัดต่อเป็นภาพโป๊เปลือย จึงเข้าแจ้งความบันทึกประจำวัน ที่ บก.สอท.1 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เนื่องจากตนไม่เคยทำผิดกฎหมายและจะไม่ทำเด็ดขาด 


ลิลลี่ เหงียน บอกว่า ขณะนี้มีแฟนคลับของตนหลงเชื่อและเสียหายแล้วประมาณ 3 - 4 ราย โดยส่งข้อความมาบอกว่า ทำไมลิลลี่หลอกลวง อุตส่าห์เชื่อใจไปลงทุนกับเว็บพนัน ซึ่งเสียเงินไปแล้วประมาณหลักพันถึงหมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับบางรายตั้งคำถามว่าทำไมตนถึงรับงานถ่ายภาพโป๊เปลือย ซึ่งตนเห็นภาพก็ตกใจ 


"อยากฝากถึงแฟนคลับทุกคนว่าอย่าไปหลงเชื่อเว็บพนันและยืนยันว่าไม่เคยรับงานผิดกฎหมายใด ๆ รวมไปถึงรับถ่ายแบบโป๊เปลือย ทั้งนี้อยากฝากถึงมิจฉาชีพอย่าทำร้ายตนเลย พร้อมยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด" ลิลลี่ เหงียน ระบุ  


ด้าน น.ส.อำนวยพร หรือ ทนายกุ้ง กล่าวว่า ในวันนี้มาเพื่อแจ้งความขอให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ สืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด โดยเข้าข่ายความผิด ทางพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 และ มาตรา 16 นอกจากนี้ตนยังคิดว่ามีผู้กระทำความผิดแบบนี้อีกเป็นจำนวนมาก และคนที่ได้รับผลกระทบหรือเสียหายมักเป็นคนมีชื่อเสียง จึงอยากให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ได้จัดการผู้กระทำผิดต่อไป


ขณะที่ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบประมาณ 40 URL ที่ปลอม ในวันนี้ตนจะสั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ทำการตรวจสอบว่า 40 URL ดังกล่าวว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงอวตารเท่านั้น หากพบว่ามีตัวตนจริง ทางตำรวจไซเบอร์ก็จะไม่ปล่อยไว้และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด  


พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นก็จะส่งเรื่องไปยังเฟซบุ๊กไทยแลนด์ให้ตรวจสอบว่าจะปิดเพจฯดังกล่าวหรือไม่ ในส่วนตรงนี้จะใช้เวลามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเฟซบุ๊กไทยแลนด์ ทั้งนี้หากประชาชนคนใดถูกปลอมเฟซบุ๊กให้รีบแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง