ญาติเศร้ารับ 7 ศพตายยกคัน เล่าคนขับกำลังจะบวชแทนคุณ

ญาติเศร้ารับ 7 ศพตายยกคัน เล่าคนขับกำลังจะบวชแทนคุณ

292302 ม.ค. 68 16:40   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ญาติเศร้ารับ 7 ศพ รถกระบะชนต้นไม้ดับยกคัน คุณตายืนยันหลานชายอายุน้อยแต่ไม่ได้ซิ่ง แถมมีแผนจะบวชแทนคุณแต่มาประสบเหตุก่อน

(2 ม.ค. 67) จากอุบัติเหตุสลด รถกระบะจาก จ.ชุมพร เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ที่ร่องกลางถนน บนถนนสาย 41 บริเวณหน้าขนส่งไชยา ขาล่องใต้ กม.124 + 500 หมู่ที่ 4 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้คนขับและผู้โดยสารทั้ง 7 คน เสียชีวิตยกคัน


โดยผู้เสียชีวิตประกอบด้วย 1.นางนิตยา อายุ 70 ปี, 2.นางศรีสุนันท์ อายุ 72 ปี(พี่สาวนางนิตยา), 3.นายชูชีพ อายุ 21 ปี(หลานชายนางนิตยา, คนขับรถ), 4.นายศุภชัย อายุ 25 ปี(หลานชายนางนิตยา), 5.นางประภาวดี(ภรรยานายชูชีพ) 6.ด.ช.กิตตเมฆ อายุ 2 ปี(ลูกติดนางประภาวดี), และ 7.ด.ช.กิตตมุก อายุ 2 ปี(ลูกติดนางประภาวดี)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: กระบะพุ่งลงร่องกลางถนน ดับ 6 ศพทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่


ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่ รพ.ไชยา ก่อนจะนำร่างทั้งหมดกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดชุมพร โดยขอไม่ให้สัมภาษณ์เนื่องจากยังอยู่ในความเศร้าโศก ทั้งนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้นคาดว่าผู้ขับขี่หลับใน



ทางด้านผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร เดินทางมายังศาลาเอนกประสงค์ของวัดดอนยาง ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พบบรรดาญาติและเพื่อนบ้านในละแวกที่ทราบข่าว นับ 100 คน เดินทางมาร่วมช่วยกันทำความสะอาดและจัดเตรียมความพร้อมรับทั้ง 7 ร่างซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี


นายบุญนำ อายุ 51 ปี น้องสามีของนางศรีสุนันท์ 1 ในผู้เสียชีวิตเล่าว่า ทุกคนที่เสียชีวิตนั้นเป็นญาติกัน ทั้งหมดอยู่ระหว่างการเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยไปด้วยกัน 11 คน มี 7 คนนั่งไปในรถกระบะคันที่เกิดเหตุ ส่วนอีก 4 คนเดินทางไปกับรถเก๋งอีกคัน ออกเดินทางตั้งแต่ 03.30 น. พวกตนมาทราบข่าวอุบัติเหตุตอน 10 โมงกว่า รู้สึกตกใจมาก


ขณะที่นายสมบัติ อายุ 76 ปี สามีของนางนิตยาเล่าว่า การเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราชในครั้งนี้เพื่อไปทำบัตรประชาชนให้นายไชยา อายุ 54 ปี(นั่งไปกับรถเก๋ง, รอดชีวิต) ลูกเขยของตน ซึ่งไม่มีบัตรประชาชนมานานแล้ว และได้ติดต่อไปทางต้นทางมีกำนันในพื้นที่จะมาเซ็นรับรองให้ จึงได้ชักชวนกันไป นอกจากจากทำธุระแล้ว ก็จะได้แวะไปเที่ยวกราบไหว้วัดไอ้ไข่ อีกด้วย แต่ไม่คิดว่าการเดินทางไปครั้งนี้ ภรรยาตนและญาติจะไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย



สำหรับนายชูชีพคนขับรถนั้นเป็นหลานชายของตน แม่ของนายชูชีพ ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเสียชีวิตไปได้ 10 กว่าปีแล้ว นับตั้งแต่นั้นตนกับภรรยาก็ช่วยกันเลี้ยงหลานชายให้เติบโตขึ้นมา โดยนายชูชีพทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งด้านขนส่งพัสดุภัณฑ์ และมีภรรยาคือนางประภาวาดี ซึ่งเป็นม่ายลูกติด 2 คนเป็นชายฝาแฝด ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ส่วนพ่อของนายชูชีพนั้นหลังจากที่ลูกสาวตนเองเสียชีวิตไป ลูกเขยก็หายหน้าหายตาไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ทราบเพียงว่าทำมาหากินอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร       


นายสมบัติ กล่าวต่อว่า ตนเองเชื่อว่า หลานชายไม่ได้ขับรถโดยประมาท และเชื่อว่าไม่ได้ขับเร็วจนเกินไป เพราะที่ผ่านมาทุกกครั้งที่ตนเองนั่งไปด้วย จะเห็นว่าขับไม่เร็วจนเกินไป ประกอบกับทางบริษัท ได้มีกฎข้อบังคับพนักงานทุกคน จะต้องขับรถอย่างสุภาพและไม่เกินกฎหมายกำหนด อีกทั้งเดินทางในครั้งนี้ยังมียาย ภรรยาและลูกแฝดไปด้วย จึงเชื่อว่าไม่น่าจะขับเร็ว


นอกจากนี้นายชูชีพเคยบอกกับนางนิตยา ภรรยาของตนว่าใกล้จะต้องจับใบดำใบแดงแล้ว หากได้ใบดำ ไม่ต้องไปเป็นทหาร ก็ตั้งใจจะบวชเพื่อทดแทนคุณให้พวกตน 2 คนตายาย แต่ไม่ทันได้บวชหลานชายกลับเสียชีวิตก่อน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง