พรรคประชาชนล่ารายชื่อ สส. ยื่นถอดถอนประธาน ป.ป.ช.

(20 ก.พ. 68) จากกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค เปิดเผยเรื่องจะมีการประชุม สส.พรรคประชาชน เพื่อหารือกันว่า จะดำเนินการตรวจสอบกรณีคลิปหลุดการสนทนาของนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. กับ นายวันมูหะมัดมอร์ มะทา ประธานรัฐสภา หรือไม่ อย่างไร เนื่องจากอาจมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อาจเป็นการเข้าไปวิ่ง ไปขอความเห็นต่อคดีความต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น

ล่าสุดมีรายงานว่าพรรคประชาชนมีการแจ้งถึงมติที่ประชุมร่วมกันของ สส. เรื่องคลิปนายสุชาติ กับ นายวันมูหะมัดมอร์  สส.พรรคปชน. ว่า จะร่วมกันใช้สิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ในการเข้าชื่อให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของทั้งสองสภาฯ เพื่อยื่นประธานรัฐสภา ถอดถอน ‘ประธาน ป.ป.ช.’ จากกรณีคลิปหลุดดังกล่าว โดยตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้(19 ก.พ.) หลังปิดการประชุมสภาฯ สส.พรรคประชาชนได้เริ่มมีการ ทยอยลงชื่อดังกล่าวหลายคนแล้ว

โดยทางพรรคต้องการเสียงอย่างน้อย 1 ใน 5 ของเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ระบุไว้ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกของทั้งสองสภาจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จํานวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อกล่าวหาว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติผู้ใด กระทําการตามมาตรา 234(1) โดยยื่นต่อประธานรัฐสภาพร้อมด้วยหลักฐานตามสมควร หากประธานรัฐสภาเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทําตามที่ถูกกล่าวหา ให้ประธานรัฐสภาเสนอเรื่องไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ จากผู้ซึ่งมีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริง

ทางด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความถึงการเข้าชื่อยื่นถอดถอนในครั้งนี้ว่า “อันนี้ไม่ใช่การเอาคืนครับ ต้องยืนยันว่าการเข้าชื่อเสนอกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของสส. ไม่ใช่การทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามที่ปปช.กล่าวหา

การจะยื่นครั้งนี้ เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีคลิปหลุดตามรธน.มาตรา236 ว่าประธานปปช.กระทำผิดมาตรา234 หรือไม่? เป็นอำนาจตามกฎหมาย

เพราะการที่ประธาน ปปช. แอบไปพบไปเจรจาก่อนรับตำแหน่ง เรื่องนี้ต้องมีคำตอบครับ ว่าเนื้อหาการสนทนานั้นมีเรื่องการทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ โดยการยื่นให้ตรวจสอบต้องใช้สมาชิก1/5 ซึ่งปัจจุบันสมาชิกสองสภาคือ 693/5=139 คน เพื่อให้ปธ.สภาเสนอเรื่องไปยังปธ.ศาลฎีกาไต่สวน

ซึ่งความผิดนั้นจะเข้ากับรธน.มาตรา 234 ที่ผู้มีตำแหน่งในองค์กรอิสระมีความผิดฐานดังกล่าวหรือไม่? ซึ่งอยู่ที่ดุลยพินิจของปธ.สภาว่าจะส่งหรือไม่ ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การเอาคืน แต่คืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของพวกเราเช่นกัน และหากเราปล่อยผ่าน คนก็อาจสงสัยว่าทำไมสภาจึงไม่ทำหน้าที่เช่นกันครับ

และย้ำอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นอำนาจตามบทบัญญัติของ รธน. ที่สส.หรือสว.ที่ต้องการเข้าชื่อสามารถทำได้ทั้งสิ้น หรือหากประชาชนจะเข้าชื่อไม่น้อยกว่า20,000ชื่อเพื่อขอให้ตรวจสอบก็ทำได้เช่นกันครับ ว่ามีการทำผิดตาม234(1) ได้ต่อประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณาต่อไป”