สุดตื้นตัน 48 ปี ไม่เคยเจอ หญิงไทยลูกครึ่งเจอพ่ออดีตทหารจีไอ

สุดตื้นตัน 48 ปี ไม่เคยเจอ หญิงไทยลูกครึ่งเจอพ่ออดีตทหารจีไอ

99106 ส.ค. 67 22:04   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สุดตื้นตัน 48 ปี ไม่เคยเจอ หญิงไทยลูกครึ่งเจอพ่ออดีตทหารจีไอ หลังประกาศตามหาจนเจอ

(6 ส.ค.67) เรื่องราวความประทับใจของ มิสเตอร์ เทอรี่ เฮาล์รี่ อายุ 72 ปี ชายชาวอเมริกัน และ น.ส.กาญจนา มิลเควิช อายุ 49 ปี หญิงลูกครึ่งชาว ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สองพ่อลูกที่พลัดพรากจากกันนานถึง 48 ปี แต่ทั้งคู่ก็ไม่ลดละความพยายามที่จะตามหาซึ่งกันและกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนชาติเดียวกันที่มีภรรยาชาวไทย และเจ้าของโรงแรมชื่อดังใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จนทำให้ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันครั้งแรกหลังไม่เคยเจอกันนาน 48 ปี ทันทีที่พ่อลูกได้เจอหน้าต่างฝ่ายก็ต่างก็ร้องไห้และโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ โดย น.ส.กาญจนา ได้นำดอกกุหลาบสีแดงและพวงมาลัยดอกดาวเรือง มามอบให้กับมิสเตอร์เทอรี่ เพื่อแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพ่อด้วย  


น.ส.กาญจนา เล่าว่า มิสเตอร์เทอรี่ ชาวอเมริกัน เป็นอดีตทหารจีไอ หรือทหารอเมริกัน เมื่อ 50 ปีก่อน ได้มาช่วยไทยรบกับเวียดนามก็พักอยู่ที่ จ.นครพนม และได้บังเอิญเจอกับ นางสุภาพร แม่ของตนเอง ซึ่งปัจจุบัน อายุ 73 ปี โดยตอนนั้นแม่ตั้งครรภ์กับชาวอเมริกันอีกคนที่มารบช่วยไทยเหมือนกัน แต่ชายอเมริกันที่เป็นพ่อแท้ ๆ กลับไม่ยอมรับแม่ แต่มิสเตอร์เทอรี่ กลับดูแลเป็นคนที่ดูแลตั้งแต่แม่ตั้งครรภ์ จนคลอดตัวเองออกมา ก็ดูแลแม่และตนเองจนอายุได้ประมาณ 1 ขวบ มิสเตอร์เทอรี่ ก็เดินทางกลับประเทศ จากนั้นตนกับแม่ก็ไม่ได้เจอกับเขาอีกเลย  แต่พอตนโตขึ้นก็พยายามโพสต์ตามหามิสเตอร์เทอรี่มาตลอด เพราะแม้จะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่เขาก็ดูแลเราตั้งแต่เกิดก็ผูกพันกันเหมือนพ่อลูก  และทราบภายหลังว่าพ่อก็พยายามตามหาตนกับแม่เหมือนกัน  


น.ส.กาญจนา กล่าวต่อไปว่า จนกระทั่ง ปี 2562 ก็สามารถติดต่อกันผ่านโซเชียลได้ จากนั้นก็สนทนากันทางเฟซบุ๊กมาตลอด ซึ่งพ่อบอกว่าจะมาหาตนกับแม่ที่ประเทศไทย แต่ปี 2562 เกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดทำให้ไม่สามารถเดินทางข้ามประเทศได้ แต่พ่อรับปากว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะมาหา กระทั่งวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา พ่อได้เดินทางมาประเทศไทยตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ตนเองกับแม่โดยไม่บอกล่วงหน้า  ซึ่งก่อนหน้านี้เคยส่งที่อยู่ให้พ่อไว้แล้ว โดยพ่อได้ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. บอกให้เพื่อนที่มีภรรยาชาวไทยให้มารับ แต่คลาดกันกับเพื่อนพ่อจึงนั่งรถทัวร์มาลงที่ บขส.บุรีรัมย์ แล้วขึ้นแท็กซี่ไปที่ อ.นางรอง เพื่อจะไปตามหาบ้านลูกสาว 


น.ส.กาญจนา กล่าวอีกว่า แต่สื่อสารกับแท็กซี่ไม่เข้าใจ คนขับแท็กซี่จึงพาไปส่งที่โรงแรมนางรองเพื่อพักผ่อนก่อน จากนั้นทางโรงแรมก็ช่วยค้นหาชื่อตนเองตามที่พ่อบอก เพราะก่อนหน้านี้ตนได้โพสต์ตามหาพ่อ เมื่อทางโรงแรมบอกว่าพ่ออยู่ที่โรงแรมนางรอง ตนก็รีบเดินทางมาหาพ่อทันที เมื่อได้เจอหน้าพ่อก็ดีใจและตื่นเต้นมาก ไม่คาดคิดว่าหลังพลัดพรากกันมานาน 48 ปี จะได้เจอกันอีก 


"แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่เขาก็ดูแลตนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ จนอายุ 1 ขวบ ก็ผูกกันเหมือนพ่อลูก พ่อมีกำหนดจะบินกลับวันที่ 21 ส.ค.67 ก็จะพ่อไปหาแม่ที่บ้านและพักอยู่ที่บ้าน หากมีโอกาสก็อาจจะเดินทางไปหาพ่อที่สหรัฐอเมริกาเหมือนกัน" น.ส.กาญจนา กล่าว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง