2 พี่น้องถูกหลอกซ้ำซ้อน สูญเงินกว่า 8 ล้านบาท

2 พี่น้องถูกหลอกซ้ำซ้อน สูญเงินกว่า 8 ล้านบาท

107211 มิ.ย. 67 13:52   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

2 พี่น้องถูกหลอกซ้ำซ้อน น้องสาวเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกก่อน ส่วนพี่สาวอยากช่วยกลับตกหลุมพรางเจอมิจฉาชีพสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารดังปล่อยกู้เงินแต่ต้องจ่ายเพื่อปลดล็อกบัญชี สุดท้ายสูญเงินไปกว่า 8 ล้านบาท

(11 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าว จ.กำแพงเพชร ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องสองสาวชาวเมืองกำแพงเพชร ว่าเสียท่ากับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ศูนย์เงินไปกว่า 7 ล้านบาท และได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. สุวิทย์ พิศอ่อน สารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมหลักฐานการแชทสนทนาผ่านทางไลน์และเบอร์โทรศัพท์พร้อมทั้งรูปภาพโปรไฟล์ของคนร้ายที่มีทั้งชายและหญิงไว้เป็นหลักฐานแล้ว


โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.30 น. นางสาวกิ๊บ(นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาว ต.นครชุม อ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่บริษัทหนึ่ง แจ้งว่ามีคนแอบอ้างเป็นตนนำบัตรประชาชนไปเปิดซิมโทรศัพท์ ซึ่งจะทำให้ตนได้รับความเสียหายถูกดำเนินคดี จะต้องไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เป็นหลักฐาน


โดยระบุให้ไปแจ้งที่สถานีตำรวจภูธรขอนแก่น ซึ่งตนได้ตอบกลับไปทางโทรศัพท์ว่าไม่ได้อยู่จังหวัดขอนแก่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าสามารถโอนสายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางขอนแก่นได้ ต่อจากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โอนสายให้กับตำรวจที่อ้าง ซึ่งตำรวจที่อ้างก็บอกว่าสะดวกไหมที่จะคุยกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์


ตอนนั้นด้วยความตกใจกลัว ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นกระชั้นชิดรวดเร็ว ตนจึงหลงเชื่อ และพูดคุยกับเจ้าหน้ที่ตำรวจปลอมผ่านทางไลน์ คนร้ายได้หลอกให้ตนโอนเงินไปให้เพื่อตรวจสอบที่มาของเงิน ตนหลงเชื่อโอนไปให้


ครั้งแรก โอนไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย บัญชี กานต์สินี จำนวน 80,000 บาท ครั้ัง 2 จำนวน 2,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวน 4,000 บาท ครั้้งที่ 4 บัญชีธนาคารกรุงไทย บัญชี ปัณฐิตา จำนวน 400,000 บาท และครั้งสุดท้าย บัญชี กานต์สินี จำนวน 20,000 บาท รวมทั้งหมด 560,000 บาท หลังจากโอนเงินไปได้สักครู่ตนเองก็ถูกเด้งออกจาก LINE ทันทีจึงรู้ว่าถูกหลอกจึงแจ้งหมายเลข 1441 ทำการ ระงับ อายัดบัญชี พร้อมแจ้งตำรวจให้ติดตามดำเนินคดีกับคนร้ายแก๊งนี้


หลังจากนั้นช่วงวันที่ 2 และ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.เก๋(นามสมมติ) อายุ 35 ปี พี่สาวของ น.ส.กิ๊บ รู้เรื่องที่น้องสาวโดนหลอก อยากช่วยเหลือโดยได้เข้าไปยื่นขอกู้เงินที่แอปพลิเคชันแอปหนึ่งมา จากนั้นมีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ติดต่อขอพูดคุยผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ แจ้งผลการขอกู้เงิน วงเงิน 1 ล้านบาท ผ่อน 36 งวด งวดละ 30,000 บาท


ระหว่างที่พูดคุยนั้นทางคนร้ายที่สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร มีการข่มขู่ตลอดว่าเมื่อเริ่มทำสัญญากู้แล้วไม่สามารถยกเลิกได้ หากยกเลิกจะมีความผิดตามกฎหมาย และต้องจ่ายค่าปรับอีกหลักแสน หลังตนตอบตกลงไป พบว่าไม่สามารถเบิกเงินออกมาได้ตามที่คนร้ายอ้าง พอปรึกษาคนร้ายก็หลอกให้โอนเงินหลายครั้งเพื่อปลดล็อกบัญชีและปลดล็อกระบบ ตนโอนเงินให้คนร้ายหลายก้อน ตั้งแต่ 2 แสนบาท ไปจนถึง 1 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 21 ครั้งรวมเป็นเงินทั้งหมด 7,790,679 บาท สุดท้ายตนลองโทรไปปรึกษาที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร จึงรู้ว่าตอนนั้นถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยหลอกลวง จึงได้แจ้งเลขที่บัญชีที่โอนเงินไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดกับธนาคารเพื่อที่จะทำการอายัดบัญชีทั้งหมดไว้ ก่อนที่จะนำความเข้าแจ้งกับตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร 


ในระหว่างที่กำลังสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เสียหายอยู่นั้น ปรากฏว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ได้โทรศัพท์เข้ามาหาเหยื่อ หลอกล่อขอเงิน 4 แสนบาท เป็นการตอบแทนที่จะช่วยเหลือเหยื่อให้ได้เงินกลับคืนมาบางส่วน ผู้เสียหายอ้างว่าตนไม่สามารถโอนเงินได้แล้วเพราะเงินในบัญชีถูกโอนไปจนหมดและเงินที่มีก็ไม่สามารถทำธุรกรรมได้เนื่องจากบัญชีถูกอายัดไว้ มีเพียงเงินสด แก๊งคอลเซนเตอร์ได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดไปมอบให้ย่านพระราม 3 กรุงเทพมหานคร โดยจะพยามช่วยผู้เสียหายให้ได้เงินคืนแน่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกหลักฐานต่างๆ ไว้เพื่อตรวจสอบหาตัวตนของกลุ่มมิจฉาชีพ เส้นทางการเงิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง