รวบแก๊งอาชีวะสร้างตัว พร้อมปืน-ยาบ้าเฉียดแสนเม็ด

(24 ส.ค. 67) ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ สนธิกำลังหลายฝ่ายทั้ง  ตชด. ทหาร  ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และฝ่ายปกครองอำเภอบ้านด่าน บุกจับกุม นายนันทกร หรือฟลุ๊ค อายุ 20 ปี, นายพีระพัฒน์ หรือเจสัน อายุ 19 ปี, นายเจษฎาภรณ์ หรือเจมส์ อายุ 19 ปี, นายวายุ หรือท็อป อายุ 19 ปี, และนายธีรเดช หรือเบ๊นซ์ อายุ 19 ปี  ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้น ปวส.ของวิทยาลัยอาชีวะชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 41 มัด จำนวน 82,000 เม็ด, ปืนลูกซองยาวแบบบรรจุ 5 นัด 1 กระบอก, กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 21 นัด, สมุดจดบัญชีลูกค้ายาบ้า 1 เล่ม, และโทรศัพท์มือถืออีกหลายเครื่อง โดยทั้งหมดอยู่ในห้องพักที่เช่าไว้พักอาศัยช่วงมาเรียนและใช้เป็นแหล่งมั่วสุม ทั้งไว้สำหรับซุกซ่อนยาบ้าที่เตรียมไปส่งกระจายให้กับลูกค้าตามคำสั่ง

การจับกุมกลุ่มนักศึกษาครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายวรายุทธ (หรือเปา) อายุ 30 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ ได้พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 176 เม็ด และสารไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.54 กรัม ในพื้นที่ ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ ซึ่งนายวรายุทธให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดดังกล่าวซื้อมาจาก นายนันทกร หรือฟลุ๊ค  หนึ่งในแก๊งนักศึกษา ที่พักอยู่แถวซอยหลังศาลในตัวเมืองบุรีรัมย์ ผ่านทางเฟซบุ๊กมาแล้วหลายครั้ง ทุกครั้งนายฟลุ๊ค มักจะใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีน้ำเงิน มาส่งยาบ้าให้

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากนายนันทกร จำนวน 5 ถุง ในราคา 15,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันที่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง บริเวณถนนนิวาศ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ต่อมานายนันทกร  ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX เข้ามาจอดยังจุดนัดหมาย  เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม  นายนันทกรดิ้นสู้ขัดขืนและพยายามวิ่งหนี แต่ จนท.สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ก่อนจะขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้เพิ่มอีก 4 คน พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 82,000 เม็ด 

จากการสอบสวนทราบว่านักศึกษาที่ถูกจับทั้ง 5 คน ได้ร่วมกันเก็บยาบ้าและนำไปขายให้ลูกค้าตามคำสั่งของ นายรัชชานนท์ (หรือน็อต) ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ที่ได้หลบหนีไปอยู่ สปป.ลาว โดยได้ค่าจ้าง 500 บาท ต่อ 1 มัด หรือ 2,000 เม็ด โดยได้แบ่งหน้าที่กันทำ และเมื่อได้เงินมาแล้วทั้ง 5 คน จะนำเงินมาเป็นกองกลางไว้ใช้กินเที่ยวเตร่ร่วมกัน ส่วนอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว นายพีระพัฒน์ (หรือเจสัน) ยอมรับเป็นของตนเอง 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป