หนุ่มละเมอกระโดดหน้าต่าง 5 ชั้นดับ

หนุ่มละเมอกระโดดหน้าต่าง 5 ชั้นดับ

60225 ส.ค. 67 16:49   |     AdminNews

หนุ่มช่างกลึงชอบนอนละเมอ พลัดตกตึก 5 ชั้นเสียชีวิต

จากเพจดังดาวน์ 8 แถบ ได้นำเสนอ ภาพข่าวกรณีชายนอนละเมอ ตกมาจากชั้น 5 ส่งผลให้เสียชีวิตณที่เกิดเหตุและได้บรรยายใจความในเพทว่า  ห้ะ!! ชายคนหนึ่งนอนละเมอ พลัดตกจากที่สูงดับร่างพาดอยู่บนกําแพง เหตุเกิดพื้นที่ สน.พระราชวัง

เบื้องต้นที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 5 ชั้น ผู้เสียชีวิตตกจากชั้น 5 ตึกนี้พักอาศัย 3 คน ผู้ประสบเหตุเป็นชา (ขอสงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 25 ปี อาชีพช่างกลึง นอนอยู่ชั้น 5 ซึ่งห้องนอนมีหน้าต่างและประตูไม่มีเหล็กดัดติดตั้งไว้ อีกทั้ง 1 ใน 2 คน ซึ่งพักอาศัยอย่ในตึกนี้ แต่ พักอยู่คนละห้องคนละชั้นให้ข้อมูลกับตํารวจว่าเป็นญาติของผู้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิต มักชอบนอนละเมออยู่บ่อยครั้ง

ล่าสุดวันที่ 25 ส.ค.67ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณโรงไฟฟ้าวัดเลียบและโรงเรียนวัดราษฏร์บูรณะ ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพา เขตพระนครกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้เสียชีวิต ที่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น โดยระหว่างชั้น 5 กับชั้น 4 ไม่มีเหล็กดัดปิดกั้นบริเวณหน้าต่าง และชั้น 5 เป็นที่นอนของผู้เสียชีวิต จากการบอกเล่าสอบถามจากนายจ้างเบื้องต้นนายจ้างได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้เสียชีวิตทำงานที่นี่มา 2 ปีกว่าแล้วเคยมาเล่าให้ฟังอยู่ว่าตนเองชอบนอนละเมออยู่บ่อยครั้งบางครั้งนอนอยู่ชั้น 5 ตื่นเช้ามาอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง เป็นประจำแถมยังมีเพื่อนสนิทอีก 1 คนที่เวลาจะกินข้าวซื้อน้ำก็จะไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำก็เล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆอุปนิสัยของผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนร่าเริงแจ่มใสไม่มีเรื่องเครียดใดๆ แต่ติดนิสัยชอบนอนละเมอ ทางนายจ้างก็เคยให้คำแนะนำบอกกล่าวและคอยเตือนอยู่ตลอดเวลา


ทางด้านแม่ค้าขายเครื่องดื่มใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุของทางเข้าการไฟฟ้าวัดเลียบเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยร่าเริงแล้วก็ เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีเพื่อนสนิทคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ปกติแล้วเวลาซื้อข้าวปลาอาหารก็จะเดินมาด้วยกัน บางทีมาซื้อน้ำที่ร้านก็ปกติ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้านตัวเองก็ตกใจเหมือนกันว่าอยู่ดีๆก็ตกมาจาก อาคารดังกล่าว ส่งผลให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ยังไงแล้วก็ขอแสดงความเสียใจด้วย

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง นำตัวเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตไปสอบสวนและสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง