เค้นสอบอยู่นาน! ปมหญิง 16 ปี ดับปริศนา ชายวัย 63 รับซื้อบริการทางเพศ สาวขอยาไปเสพ ก่อนปากซีด มืดซีด หายใจผิดปกติ

เค้นสอบอยู่นาน! ปมหญิง 16 ปี ดับปริศนา ชายวัย 63 รับซื้อบริการทางเพศ สาวขอยาไปเสพ ก่อนปากซีด มืดซีด หายใจผิดปกติ

279405 ก.ย. 67 19:33   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เค้นสอบอยู่นาน! ปมหญิง 16 ปี ดับปริศนา ชายวัย 63 รับซื้อบริการทางเพศ สาวขอยาไปเสพ ก่อนปากซีด มืดซีด หายใจผิดปกติ แจ้ง 6 ข้อหนัก ส่วนเพื่อนคนตายและแม่เล้าแจ้ง 8 ข้อหา

จากกรณีที่สาวน้อยวัย 16 ปี เสียชีวิตปริศนาในห้องนอน และพบว่ามีคราบเลือดที่จมูก เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำคืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น วันที่ 4 กันยายน 2567 ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หมู่บ้านลัลลี่วิลล์ ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งหลักเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนเชิญคนในบ้านหลังดังกล่าวมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก


(5 ก.ย.67) พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทั้ง นายสุชิน (หรือตี๋) อายุ 63 ปี , นางสาวตาล อายุ 21 ปี และนางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี 


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พาตัว นายสุชิน ไปตรวจค้นบ้านอีกครั้ง หลังเจ้าตัวยอมรับว่า ผู้ตายได้มาขอยาเสพ เจ้าหน้าที่พบถุงยาภายในมีผงสีขาว (ยาเฮโรอีน) และอุปกรณ์การเสพยา ที่ถูกซ้อนไว้ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะคุมตัวกลับมาที่โรงพัก 


พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับนายสุชิน จำนวน 6 ข้อหา ส่วน นางสาวตาล และ นางสาวบี (นามสมมุติ) จำนวน 8 ข้อหา ก่อนจะคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เบื้องต้นขอชี้แจงละเอียดเป็นไทม์ไลน์ก่อน คือเมื่อวานเวลาประมาณ 20.30 น. ทางกู้ชีพได้รับแจ้งจากคนที่อยู่ในบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้าน เมื่อกู้ชีพไปถึงพบเป็นน้องอายุ 16 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งกู้ชีพสงสัยว่าเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติจึงได้แจ้งตำรวจไปตรวจสอบ 


ทางตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุประมาณ 21.15 น. และได้สอบถามพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นลุงอายุ 63 ปี ชื่อ นายตี๋ จากการที่แพทย์ตรวจสอบชันสูตรศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือการถูกทำร้าย จากการสอบถามนายตี๋เบื้องต้นให้การว่าผู้เสียชีวิตหายใจติดขัด ตั้งแต่ช่วงบ่าย และหมดสติ ชีพจรเต้นผิดปกติ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากโรคประจำตัว อันนี้เป็นการ ให้การเบื้องต้นของนายตี๋ 


จากการพิสูจน์ทราบจากข้อมูลทางเทคนิค พยานหลักฐานและพยานแวดล้อม ทำการพิสูจน์ทราบเมื่อคืนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นปรากฏว่า มีมอร์ฟีนอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งจากการสอบถาม นายตี๋ให้การว่าผู้เสียชีวิตเข้ามาเพื่อที่จะทำหน้าที่ไลฟ์สดขายของ แต่ด้วยข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นการซื้อบริการทางเพศ โดยมีการติดต่อผ่านบุคคลที่ 3 ในราคา 1,100 บาท และมีคนพาผู้เสียชีวิตมาส่งที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ 


ในส่วนของ 2 คนนี้ เป็นผู้หญิงทั้งสองรายเป็นเยาวชนหนึ่งรายและผู้ใหญ่หนึ่งราย ตอนนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวและอยู่ในระหว่างแจ้งข้อกล่าวหา ในส่วนสาเหตุการเสียชีวิต นายตี๋ บอกว่าหลังจากที่ผู้เสียชีวิตขึ้นไปบนห้องได้มีการขอสูบบุหรี่ ซึ่งนายตี๋ให้ผู้เสียชีวิตสูบได้และตัวนายตี๋ได้ทำการสูบกัญชา และทางผู้เสียชีวิตได้ถามนายตี๋ว่ามียาไหม ซึ่งนายตี๋เข้าใจว่ายาที่ตัวเองได้ซื้อมาจากหญิงให้บริการก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครเป็นยาเคตามีน แต่ผลปรากฏว่ายาตัวนี้เป็นเฮโรอีน ซึ่งตัวน้องผู้หญิงที่มาด้วยและผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันเสพ นายตี๋ไม่ได้เสพยาเสพติดดังกล่าว โดยใช้วิธีการสูดดมทางจมูก เป็นลักษณะโอเวอร์โดส 


จากการสอบน้องคนที่พาผู้เสียชีวิตมา ให้การว่าหลังจากเสพยาเคแต่ที่จริงแล้วเป็นเฮโรอีน จะมีอาการแปลกกว่าทุกครั้ง จะมีลักษณะคันและหายใจไม่ออก และวิงเวียนศีรษะคล้ายจะหมดสติ แต่เนื่องด้วยคนที่พามาเสพในปริมาณที่น้อยจึงขอตัวกลับบ้านก่อนในเวลา 17:00 น. และผู้เสียชีวิตก็นอนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวและทำให้เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะเสียชีวิตเพื่อนคนที่มาด้วยได้มีการแจ้งให้นายตี๋นำตัวผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล แต่นายตี๋คิดว่าเป็นผลจากการเสพยาจึงมีการเช็ดตัวและไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล


จากการสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิตและนายตี๋ ยืนยันว่ายังไม่มีการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้น เพราะผู้เสียชีวิตมีการเสพยาและโอเวอร์โดสก่อน ตอนนี้ได้มีการแจ้งข้อหา นายตี๋ 6 ข้อหา ในคดีหลักจะเป็นพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร และเรื่องประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และรวมถึงการครอบครองยาเสพติดประเภทที่หนึ่งคือเฮโรอีน และข้อหาอื่นย่อยอีกสามข้อหา 


ส่วนตัวเพื่อนผู้เสียชีวิตและตัวแม่เล้าที่ติดต่อผู้เสียชีวิต ได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 8 ข้อหา โดยคดีหลักจะเป็นค้ามนุษย์และพรากผู้เยาว์ รวมถึงในคดีที่เป็นธุระจัดหาการค้าประเวณี ตอนนี้นายตี๋อยู่ระหว่างนำตัวไปตรวจสารพิษในร่างกาย เบื้องต้นยาจะเป็นหนึ่งถุงเล็กประมาณเกือบ 1 กรัม แต่ว่าตัวผู้รอดชีวิตที่เล่นยาแจ้งว่า ใช้วิธีตัดหลอดสูดเข้าไปทางจมูกแต่ว่าปริมาณน้อยแต่ตัวผู้เสียชีวิต ตัดไปเต็มหลอดทั้งสองฝั่ง ส่วนซองยาหลังจากพานายตี๋ไปตรวจค้นทางตำรวจได้มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีคราบยาเสพติดและได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าเป็นเฮโรอีน 


เบื้องต้นนายตี๋ให้การรับสารภาพแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการขยายผลของยาเสพติดในการได้มา จากการสอบถาม นายตี๋มียาอยู่แต่ไม่ได้เสพ โดยปกตินายตี๋จะเสพกัญชาอย่างเดียว ครั้งนี้นายตี๋อ้างว่าผู้เสียชีวิตมีการขอยาเสพติดดังกล่าว ซึ่งนายตี๋ เข้าใจว่าที่ตนมีเป็นเคตามีน แต่ว่ามันเป็นเฮโรอีนซึ่งความรุนแรง เพราะเสพในปริมาณมากเลยทำให้โอเวอร์โดสเลยทำให้เสียชีวิต ไม่ใช่เป็นการมอมยาเพราะในห้องที่เกิดเหตุมีนายตี๋และเพื่อนคนตายอยู่ในห้องด้วยตลอด 


เบื้องต้นคนที่จัดหาเด็กให้นายตี๋ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนน้ำองุ่นเมื่อคืนไม่เกี่ยว เป็นการกินดื่มปกติในน้ำองุ่นไม่มีสารพิษ สารพิษที่ทำให้เสียชีวิตคือเฮโรอีนซึ่งตรงกับผลชันสูตรเบื้องต้น นายตี๋ไม่เคยมีประวัติ ส่วนตัวผู้เสียชีวิตมีประวัติแต่จากการตรวจสอบในมือถือพบ มีการถ่ายภาพและคลิปที่มีการเสพเคตามีนก่อนหน้านี้ เบื้องต้นได้คุยอธิบายกับทางญาติของผู้เสียชีวิตคร่าวๆ ยังไม่ได้คุยรายละเอียด เพราะทางญาติยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ


นางสาวตาล บอกว่า คือที่หมดถุงน้องใช้คนเดียว น้องดมข้างละ 3 ที และน้องมาถามตนว่าดมอีกไหมตนปฏิเสธไป เพราะตนรู้สึกว่าไม่ไหว หลังจากนั้นน้องก็ดมหมดเลย ลักษณะไม่เหมือนยาเคที่ตนเคยใช้ เพราะตอนแรกนั่งคันกัน ตนไม่รู้คิดว่าเป็นยาเค แต่ลุงเขามั่นใจว่าเป็นยาเคเพราะเป็นยาของลุง ตนดมไปข้างละที ส่วนน้องดมไปหมดถุง น่าจะประมาณครึ่งกรัม หลังจากที่ดมรู้สึกคันตัวและหนาว เหมือนคนง่วงพร้อมจะหลับตลอดเวลา 


ส่วนตัวน้องก็บอกว่าคันและง่วงก็เลยขอไปนอน ตนก็ปล่อยให้น้องนอน และเหมือนน้องหายใจติดขัด ตนได้บอกลุง และสังเกตว่าน้องปากซีด มืดซีด หายใจผิดปกติ ลุงบอกว่าอาจจะเป็นเพราะผลของยาเคหรือเปล่า ตนก็ไม่ได้อะไรทำได้แค่ตบหน้าน้องให้น้องตื่น และเขย่าตัวน้อง ตนได้ถามเพื่อนที่ดมยาเคเหมือนกัน เพื่อนบอกว่าถ้าดมเคแล้วเมาอย่าให้นอนถ้านอนแล้วจะใหลตาย ตนก็เลยพยายามปลุกน้องทุกอย่าง แล้วที่มือก็กลับมาแดงจากที่ซีด ก่อนตนจะกลับตนก็คิดว่าน้องน่าจะรอดไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ลุงก็บอกว่าน้องไม่น่าจะเป็นอะไรน่าจะเป็นเพราะผลของเค 


ตนได้บอกให้ลุงเรียกรถพยาบาล ลุงก็บอกว่าไม่ต้องเรียกจะตกใจทำไมเดี๋ยวน้องก็หาย หลังจากนั้นตนก็กลับเลย ตนก็ไม่คิดว่าน้องจะเสียเพราะตอนที่ตนกลับบ้านตนก็พยายามไม่ให้ตัวเองหลับเพราะกลัวจะใหลตาย พอรู้ว่าน้องเสียก็พยายามไม่นอน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง