ลุงวัย 66 ปีโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน สุดเจ็บใจสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต

ลุงวัย 66 ปีโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน สุดเจ็บใจสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต

53929 มิ.ย. 67 14:37   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ลุงวัย 66 ปีเสียท่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจข่มขู่หลอกโอนเงิน 4 ครั้งสูญเงินกว่าครึ่งแสนที่เก็บมาทั้งชีวิต พบชาวบ้านในพื้นที่อีก 2 รายโดนลักษณะเดียวกันเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท

ที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพี (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 บ้านนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วุฒิชัย ยืมสูงเนิน สว.(สอบสวน) สภ.เทพสถิต หลังถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกให้โอนเงินจำนวนกว่า 43,000 บาท

นายสุพี เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ได้มีสายโทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น แจ้งว่า ตนได้นำเด็กผู้ชายไปรักษาที่โรงพยาบาลเเละได้ทิ้งเด็กอายุประมาณ 3 ปี มาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล โดยมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเด็กถูกทำร้ายร่างกายมาได้รับบาดเจ็บ จึงได้ทำการรักษาและส่งมอบเด็กให้กับตำรวจ เพื่อติดตามหาญาติ


โดยมิจฉาชีพ ได้ทำทีประสานไปยังตำรวจ พร้อมกับให้ นายสุพี พูดคุยเอง ซึ่งมิจฉาชีพที่อ้างเป็นตำรวจ บอกด้วยว่า ตนมีสิ่งของผิดกฎหมาย(พัวพันยาเสพติด) ให้ตนแอดไลน์เพื่อพูดคุยในเรื่องรูปคดี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ชื่อแอบอ้างเป็น นายตำรวจใน จ.ขอนแก่น พูดชี้แจงและข่มขู่ พร้อมกับให้ตนโยกเงินในบัญชีทั้งหมด โอนไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ หากไม่โอนจะมีความผิดและบัญชีธนาคารจะถูกอายัด

ด้วยความกลัวบัญชีจะถูกอายัด เพราะเป็นเงินเก็บการเป็นพนักงานเก็บน้ำปะปาในหมู่บ้าน สะสมมาเกือบทั้งชีวิต จึงเอาสมุดบัญชีเดินทางไปที่ร้านค้าที่รับโอนเงิน ทำธุรกรรมโอนเงินไปยังบัญชี "นายเดชา xxx" บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โอน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 43,000 บาท โดยรายชื่อในบัญชีของมิจฉาชีพจะไม่มีรายชื่อซ้ำกัน



กระทั่งผ่านไปหลายวันและรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงปรึกษาญาติและเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ ระหว่างแจ้งความแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้พยายามโทรศัพท์มาหาตน ให้โอนเงินที่เหลือในบัญชีไปเพิ่ม ซึ่งหลังเกิดเหตุยอมรับว่า เสียใจกับการโดนหลอก นอกจากนี้ ทราบว่า ยังมีชาวบ้านในเขตพื้นที่เดียวกัน ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจำนวน 2 ราย เป็นเงินกว่า 100,000 บาทด้วย  




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง