อัปเดต! "น้ำท่วม" 14 จังหวัด ยังไม่คลี่คลาย ปชช.เกือบ 3 หมื่นคน เดือดร้อน

อัปเดต! "น้ำท่วม" 14 จังหวัด ยังไม่คลี่คลาย ปชช.เกือบ 3 หมื่นคน เดือดร้อน

35403 ต.ค. 67 16:22   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ปภ.อัปเดตสถานการณ์"น้ำท่วม"ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 3 ต.ค. 67 ล่าสุดยังมี 14 จังหวัด ยังไม่คลี่คลาย ปชช.เกือบ 3 หมื่นคน เดือดร้อน

(3ต.ค.67) เวลา 11.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 3 ต.ค. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด ได้แก่ 


  1. เชียงราย 
  2. เชียงใหม่ 
  3. แม่ฮ่องสอน 
  4. ตาก 
  5. พะเยา 
  6. น่าน 
  7. ลำพูน 
  8. ลำปาง 
  9. แพร่ 
  10. อุตรดิตถ์ 
  11. สุโขทัย 
  12. พิษณุโลก 
  13. นครสวรรค์ 
  14. เพชรบูรณ์ 
  15. เลย 
  16. อุดรธานี 
  17. หนองคาย 
  18. นครพนม 
  19. ขอนแก่น 
  20. ชัยภูมิ 
  21. มหาสารคาม 
  22. บึงกาฬ 
  23. หนองบัวลำภู 
  24. อุบลราชธานี 
  25. ปราจีนบุรี 
  26. อ่างทอง 
  27. พระนครศรีอยุธยา 
  28. ปทุมธานี 
  29. ระยอง 
  30. ชุมพร 
  31. สุราษฎร์ธานี 
  32. ภูเก็ต 
  33. ยะลา 
  34. นครศรีธรรมราช 
  35. พังงา 
  36. ตรัง 
  37. สตูล 


รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 226 อำเภอ 984 ตำบล 5,318 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 193,307 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 49 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน 


ซึ่งปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ 


  1. เชียงราย 
  2. พะเยา 
  3. แม่ฮ่องสอน 
  4. ลำพูน 
  5. ตาก 
  6. พิษณุโลก 
  7. สุโขทัย 
  8. เลย 
  9. อุดรธานี 
  10. ชัยภูมิ 
  11. มหาสารคาม 
  12. อุบลราชธานี 
  13. อ่างทอง 
  14. พระนครศรีอยุธยา 


รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 43 อำเภอ 224 ตำบล 1,226 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,832 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้ 


ภาคเหนือ

รวม 7 จังหวัด 18 อำเภอ 71 ตำบล 351 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,674 ครัวเรือน 


  1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เมืองฯ และ อ.แม่ลาว รวม 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
  2. พะเยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่เจ รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
  3. แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอ เมืองแม่ฮ่องสอน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
  4. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน รวม 14 ตำบล 117 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,868 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  5. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 7 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,172 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  6. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 26 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,694 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  7. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองฯ รวม 15 ตำบล 51 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,940 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รวม 5 จังหวัด 16 อำเภอ 62 ตำบล 377 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,264 ครัวเรือน 


  1. เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วังสะพุง และ อ.ภูเรือ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  2. อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.สร้างคอม อ. วังสามหมอ อ.กุดจับ อ.พิบูลย์รักษ์ และ อ.บ้านดุง รวม 20 ตำบล 141 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,068 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  3. ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ และ อ.จัตุรัส รวม 12 ตำบล 45 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 71 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  4. มหาสารคาม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.กันทรวิชัย อ.โกสุมพิสัย และ อ.เชียงยืน รวม 26 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 57 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  5. อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สว่างวีระวงศ์ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 37 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง


ภาคกลาง

รวม 2 จังหวัด 9 อำเภอ 91 ตำบล 498 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,894 ครัวเรือน 


  1. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ และ อ.ไชโย รวม 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 245 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  2. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ. บางปะหัน รวม 88 ตำบล 486 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,649 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิกยกสูง รถตักล้อยางอเนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิกแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง 



ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android 


หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง 



ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง