น้ำท่วมแล้วมากกว่า 20,000 ครัวเรือน พ่อเมืองกรุงเก่าสั่งเร่งช่วยเหลือ
น้ำท่วมแล้วมากกว่า 20,000 ครัวเรือน พ่อเมืองกรุงเก่าสั่งเร่งช่วยเหลือ
น้ำท่วมแล้วมากกว่า 20,000 ครัวเรือน พ่อเมืองกรุงเก่าเรียกประชุมเตรียมป้องกัน-ดูแล เน้นกลุ่มเปราะบาง-วัด-โรงเรียน
วันที่ 3 ตุลาคม 2567 กรมชลประทาน แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยในวันนี้จะปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มเวลา 13.00 น.ทยอยจากอัตรา 1,899 ลบ.ม./วิ เป็นอัตรา 1,950 ลบ.ม./วิ ในเวลา 16.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงเช้า ที่ห้องประชุมมหาธาตุ อาคาร 1 ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุม เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ครั้งที่ 7/2567
โดยมีนางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้รายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประชาชนประสบภัยน้ำล้นตลิ่ง จำนวน 7 อำเภอ 94 ตำบล 523 หมู่บ้าน รวม 20,292 ครัวเรือน ใน 7 อำเภอ ได้แก่
- อ.ผักไห่
- อ.เสนา
- อ.บางบาล
- อ.บางไทร
- อ.พระนครศรีอยุธยา
- อ.บางปะอิน
- อ.บางปะหัน
นายนิวัฒน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การที่กรมชลประทาน เตรียมเพิ่มปริมาณการระบายน้ำแตะระดับ 2,000 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 1.00-1.50 เมตร ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา , ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ (ริมแม่น้ำน้อย) ซึ่งทางจังหวัดฯ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะการดูแลกลุ่มเปราะบาง วัดและโรงเรียน
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าท่าภูมิภาค สาขาอยุธยา จัดทำประกาศแจ้งเตือนกำชับ ให้เรือขนส่งสินค้าระมัดระวังการเดินเรือเป็นพิเศษ ขณะที่เดินเรือผ่านบริเวณบ้านเรือนประชาชน เพราะจะทำให้เกิดคลื่นเรือ กระทบกับบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก
ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ยังได้กำชับผู้ประกอบการแจ้งนักท่องเที่ยว ให้สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะโดยสารเรือ เนื่องจาก กระแสน้ำไหลแรง รวมถึง สั่งการให้แขวงทางหลวงอยุธยา และแขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา จัดทำป้ายแจ้งเตือนหรือสัญญลักษณ์บนถนน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ ว่ามีจุดที่ประชาชนอพยพขึ้นมาอยู่บนพื้นผิวจราจร