เขื่อนลำปาวจ่อน้ำเต็ม 100% เร่งระบาย เตือนที่ลุ่มระวังน้ำท่วมฉับพลัน

วันที่ 26 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้ออกประกาศฉบับที่ 1 ในส่วนของพื้นที่รับน้ำฝนอ่างเก็บน้ำลำปาว ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ มีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่เหนือเขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ ในช่วงวันที่ 20-24 กันยายน 2567 รวม 255 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังคงมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 

โดยเมื่อวานนี้ วันที่ 25 ก.ย.67 ที่มีการออกประกาศ อ่างเก็บน้ำลำปาวมีปริมาณน้ำ 1,675.29 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 84.61 ของความจุที่ระดับเก็บกักปกติ (1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร) ระดับน้ำต่ำกว่าเส้นควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) 0.23 เมตร หรือ 63.31 ล้านลูกบาศก์เมตร

ดังนั้น เพื่อให้เป็นการควบคุมปริมาณน้ำ ให้เป็นไปตามเกณฑ์การบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งให้มีช่องว่างในการรับน้ำในช่วงต่อไป และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หากมีปริมาณน้ำมากเกินเกณฑ์ควบคุม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จะทำการปรับเพิ่มการระบายน้ำ ผ่านอาคารระบายน้ำในช่วงนี้ จากวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละไม่เกิน 10 ล้านลูกบาศก์เมตร แบบขั้นบันได ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 67 

โดยโครงการฯ จะบริหารจัดการน้ำให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ทั้งด้านเหนือเขื่อน และท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด และขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำได้ ผ่านช่องทางเพจ facebook : โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว สำนักงานชลประทานที่ 6 หรือทาง Line กลุ่ม เขื่อนลำปาว (ปชส.) ต่อไป 

ข่าวที่คล้ายกัน :

• น้ำยมเข้าวัดแล้ว! พระสงฆ์ตีกลอง-เคาะระฆัง แจ้งข่าวแบบโบราณ
• รีบยกของขึ้นที่สูง เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบาย 2,000 ลบ.ม น้ำขึ้น 1.5 ม.

โดยวันนี้ (26 ก.ย.67) จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มีมวลน้ำได้ล้นตลิ่งลำน้ำปาว เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าว ในพื้นที่ลุ่มตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นจำนวนกว่า 500 ไร่ มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และจะมีระดับสูงต่อเนื่อง พร้อมจะขยายวงกว้างออกอีกต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว วันนี้มีปริมาณอยู่ที่ 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณเก็บกักสูงสุด 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 85.86%

อย่างไรก็ตาม พื้นที่เหนือเขื่อนพบมีระดับน้ำเริ่มเอ่อขึ้น ท่วมถนนสาย อ.ศรีธาตุ (อุดรธานี)-อ.ท่าคันโท (กาฬสินธุ์) บางส่วนแล้ว