ลุงลืมหลาน 6 ขวบไว้ที่ปั๊ม รู้ตัวอีกทีมาไกล 400 กม.แล้ว

(8 ส.ค. 67) เวลา 02.00 น. หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งว่ามีเด็กพลัดหลงอยู่ในปั๊มน้ำมัน บริเวณริมถนนสาย 24 โชคชัย - เดชอุดม ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ

เมื่อหน่วยกู้ภัยไปถึงปั๊มน้ำมัน พบมีหญิงสาว 2 คน กำลังปลอบโยนเด็กหญิงอายุประมาณ 5-6 ขวบ มีกระเป๋าเป้สะพายอยู่ด้านหลัง ตรวจสอบในตัวเด็กไม่พบเอกสารในตัว ภายในกระเป๋าพบกล่องกระติบข้าวเหนียวและขวดน้ำดื่ม สอบถามหญิงสาวทั้ง 2 คน ที่ดูแลทราบว่าเห็นเด็กนั่งร้องไห้นานจึงเข้าไปปลอบและซักถาม แต่ไม่มีใครมารับจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่

จากนั้นกู้ภัยจะพาเด็กไปที่ สภ.นางรอง บุรีรัมย์ แต่เด็กไม่ยอมไปเพราะเกิดความกลัว จนกระทั่งหญิงสาว 2 คน ที่เป็นคนดูแลตอนแรกกล่อมจึงยอมขึ้นรถกู้ภัย โดยระหว่างการเดินทางเด็กร้องไห้ตลอดเวลาเนื่องจากหวาดกลัว กู้ภัยพยายามถามแต่เด็กไม่ตอบ

ต่อมาตำรวจให้หน่วยกู้ภัยนำเด็กไปพักที่สำนักงานหน่วยกู้ภัยเพราะสถานที่สะดวกกว่า เมื่อไปถึงสำนักงานกู้ภัยเด็กมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีน้องกู้ภัยผู้หญิงเข้าไปพูดคุยพูดตอบโต้ได้ แต่ยังไม่ทราบที่มาของเด็กหญิงคนดังกล่าว

หลังจากนั้นหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์บุรีรัมย์ ได้โพสต์ประกาศตามหา มีคนเข้าไปแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ในเวลาต่อมาได้มีหญิงโทรติดต่อมาบอกว่าเป็นแม่ของเด็กทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จากการพูดคุยทราบว่าเด็กหญิงคนนี้เป็นชาว สปป.ลาว ก่อนเกิดเหตุขึ้นรถทัวร์สายปากเซ-กทม. มากับลุงของเธอ เพื่อเดินทางไปหาแม่ที่ทำงานอยู่ที่ กทม.

เมื่อรถโดยสารซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมดประมาณ 30 คน เดินทางมาถึงที่ อ.นางรอง เวลาประมาณ 23.55 น.ได้จอดแวะปั๊ม ปตท.สาขาหนองโบสถ์ อ.นางรอง เพื่อให้ผู้โดยสารพักเข้าห้องน้ำตามปกติ ลุง-หลานคู่นี้ก็ลงไปเข้าห้องน้ำด้วย ก่อนที่ลุงจะกลับขึ้นมาบนรถคนเดียว เมื่อไม่เห็นหลานสาว ลุงก็ถามคนขับรถว่าเห็นเด็กหญิงหรือไม่ คนขับรถบอกน้องไปนอนอยู่ที่เบาะหลังรถ ลุงของเด็กจึงไม่ได้สนใจ และนั่งรถมาถึง กทม. ก่อนจะรู้ว่าหลานสาวหายไป ซึ่งแม่ของเด็กหญิงก็รีบตีตั๋วรถมารับลูกน้อยที่ อ.นางรองในวันนี้

ด้านนายวรบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เล่าว่า หลังรับแจ้งได้เข้าไปตรวจสอบทันที พบว่าเด็กอยู่ในอาการผวา ไม่พูดคุยกับใคร เท่าที่ทราบเบื้องต้นเด็กไม่ใช่คนไทยแน่นอน จึงเอาภาพมาโพสต์ตามหาผู้ปกครอง ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่เด็กไม่ได้เป็นอันตราย