หญิงแกร่งบางแพปีน"ต้นตาล"สูง 10 ม. เก็บยอดอ่อนสาน"ชะลอมหนามตาล"ขายเลี้ยงชีพ

หญิงแกร่งบางแพปีน"ต้นตาล"สูง 10 ม. เก็บยอดอ่อนสาน"ชะลอมหนามตาล"ขายเลี้ยงชีพ

106005 ธ.ค. 67 20:21   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เปิดเคล็ดลับสุขภาพดี หญิงแกร่งบางแพปีน"ต้นตาล"สูง 10 ม. เก็บยอดอ่อนสาน"ชะลอมหนามตาล"ขายเลี้ยงชีพ

(5ธ.ค.67) ที่ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นางอำพร ภู่ระหงษ์ หรือ ป้าตุ๊ อายุ 72 ปี ชาว อ.บางแพ จ.ราชบุรี หลังทราบว่าเป็นหญิงแกร่ง มีพละกำลังปีน"ต้นตาล"เก็บยอดอ่อนมาสาน"ชะลอมหนามตาล"ขายเป็นรายได้เลี้ยงชีพ 



ป้าตุ๊ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปในหมู่บ้านเพื่อไปปีน"ต้นตาล" โดยพบว่าป้าตุ๊มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมร่ำลือเคลื่อนไหวแคล่วคล่องว่องไว ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถไต่ก้านตาลขึ้นไปถึงยอด"ต้นตาล"ที่มีความสูงเกือบ 10 เมตร จากนั้นใช้มีดอีเหน็บเล่มเล็กค่อย ๆ บรรจงตัดใบอ่อนที่อยู่ใจกลางยอดออกมาใช้งาน โดยป้าตุ๊จะออกมาปีนเก็บยอดตาลสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง โดยจะจ่ายค่ายอดตาลให้กับเจ้าของต้น ในราคายอดละ 10 บาท และทำเช่นนี้มาแล้วกว่า 20 ปี



ป้าตุ๊ เปิดเผยว่า ในอดีตถุงพลาสติกถือเป็นของหายากและมีราคาแพง ชาวบ้านจึงนำวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ไม้ไผ่ ใบมะพร้าว และใบตาล มาจักสานเป็นภาชนะและของใช้ต่าง ๆ ทั้ง กระบุง กระจาด กระด้ง และชะลอมหลากหลายรูปทรง โดยเฉพาะ “ชะลอมหนามตาล” ชาวบ้านในพื้นที่จะนิยมทำขึ้นเพื่อใช้ใส่ลูกตาล 



"สำหรับตนก็อาศัยวิธีครูพักลักจำและฝึกฝนอยู่นาน จนสามารถทำขายเป็นอาชีพ แต่ละวันสามารถสานชะลอมลูกเล็กได้จำนวน 10 ใบ ชะลอมลูกใหญ่ 3 ใบ ก่อนนำไปวางขายยังสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด และขายส่งให้ร้านค้าปลีก สามารถสร้างรายได้ต่อเดือนประมาณ 7,000 - 10,000 บาท" ป้าตุ๊ กล่าว




ป้าตุ๊ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของวิธีการตัดยอดตาลจะต้องแต่งกายด้วยกางเกงและเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันหนามแหลมของต้นตาล หลังจากที่ปีนขึ้นไปบนส่วนของยอดแล้วจะใช้มีดตัดและกรีดเอาเฉพาะส่วนของใบอ่อน โดยจะตัดให้เหลือส่วนที่เรียกว่ามือไว้ที่ต้น เพื่อไว้รับน้ำค้างสำหรับเลี้ยงต้น 


"นอกจากนี้ในการปีนต้นแต่ละครั้ง ตนจะต้องสำรวจว่ามีด้วงหรือแมลงศัตรูพืชอื่น ๆ มากัดกินทำลายต้นหรือไม่ เพื่อป้องกันและอนุรักษ์ต้นตาลไว้ เนื่องจากปัจจุบันต้นตาลในพื้นที่มีเหลือน้อยลงทุกวัน โดยหลังจากตัดแล้วประมาณ 1 เดือน ต้นตาลจะแทงยอดขึ้นมาใหม่ให้ตัดได้" ป้าตุ๊ ระบุ 


ป้าตุ๊ กล่าวด้วยว่า สำหรับ"ชะลอมหนามตาล"ที่ตนทำขาย จะแบ่งเป็นขนาดเล็กราคาใบละ 20 บาท , ขนาดกลาง 40 บาท และขนาดใหญ่ 60 บาท โดยลูกค้านิยมซื้อนำไปจัดเป็นกระเช้าของฝากของขวัญ อาทิ ใส่ไข่ไก่ , ซุปไก่ , รังนก และผลไม้ เพื่อมอบให้กับญาติผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ถึงแม้จะอายุมากถึง 72 ปี ป้าตุ๊ เปิดเผยว่า ตนจะเน้นกินข้าวกับน้ำพริกผัก , ปลานึ่ง , ปลาทอด , กล้วยหอม และหมั่นออกกำลังกายขยับแขนขาเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำ ทำจิตใจให้แจ่มใส ปล่อยวางจากความเครียด ซึ่งในอดีตตนสามารถปีนต้นตาลยอดสูง ๆ ได้อย่างสบาย 


"แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น จึงจะเลือกปีนต้นตาลที่ไม่สูงมากนัก ประกอบกับลูกหลานอยากให้หยุดพัก แต่ในเมื่อตนยังมีแรง ก็ขอออกไปทำงาน ได้พบปะชาวบ้าน ช่วยให้ได้พูดคุย เรียนรู้อาชีพอื่น ๆ และคลายเหงา" ป้าตุ๊ ระบุ 


ทั้งนี้ท่านใดที่สนใจเรียนรู้การสานและอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชะลอมหนามตาล สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ป้าตุ๊ เบอร์โทรศัพท์ 0817045973


ข่าวเวิร์คพอยท์23


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง