พ่อเปิดการ์ดอ้างลูกป่วยจิต ขอโทษญาติคนตาย

วันที่ (5มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดหลังจากตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต นำกำลังติดตามตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุฆ่าอัมพรางหญิงสาววัย 18 ปี ทิ้งใต้ทางด่วนบางพูน จ.ปทุมธานี 

โดยตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวได้ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านรังสิต เมื่อไปถึงได้พบกับ นายเอกชัย อายุ 45 ปี(พ่อผู้ต้องสงสัย)กล่าวว่า ให้ช่วยเรียกรถ กู้ภัยมารับ ลูกชายตน หรือ "แซน" อายุ 19 ปี เนื่องจากได้พยายามกินยาฆ่าตัวตาย ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจึงได้รีบนำตัวส่งที่โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• เปิดภาพผู้ต้องสงสัยหอบศพหญิงเปลือยไร้มือทิ้งใต้ทางด่วนบางพูน
• รวบหนุ่ม 18 ฆ่า-ทิ้งศพสาวใต้ทางด่วน พบกินยาหวังจบชีวิตหนีผิด

เบื้องต้นขณะนี้ตำรวจได้มีการอายัดตัวผู้ต้องสงสัย หากพบว่าพ้นขีดอันตรายแล้วก็จะมีการสอบปากคำต่อไป แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง เนื่องจากผู้ต้องสงสัยยังอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์ ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อประสานการรับตัว

ด้าน นายเอกชัย (สงวนนามสกุล) พ่อของผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า เมื่อ 1-2 ปี ที่ผ่านมา ลูกชายมีอาการป่วยทางจิตเวช ซึ่งปัจจุบันยังคงต้องกินยารักษาอาการอยู่ตลอด ส่วนอาการที่เป็นคือ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ในส่วนของผู้ตาย ตนเองในฐานะเป็นพ่อก็รับรู้ว่าลูกชายได้คบหากับผู้ตายจริง โดยคบหากันมาเป็นระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ในส่วนปมเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น ตนยังไม่ทราบ รายละเอียดอะไรมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ มารู้ข่าวอีกทีพี่ชายเขาก็โทรมาบอกว่า น้องชายนอนหมดสติอยู่ในห้อง ลักษณะพยายามจะกินยาฆ่าตัวตาย พอรู้ข่าวตนจึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้าน และก็พบว่าลูกชายนอนหมดสติอยู่ในห้องนอนภายในบ้าน และหลังจากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำตัวมาส่งยังโรงพยาบาล ส่วนตัวในฐานะที่เป็นพ่อก็อยากกล่าวขอโทษญาติของผู้เสียชีวิต ลูกชายเป็นผู้ป่วยทางทางจิตเวช 

ขณะเดียวกันผู้เป็นพ่อได้นำตัวอย่างยาที่ลูกชายใช้กินเพื่อรักษาอาการทางจิตเวชมาให้กับทางโรงพยาบาล ซึ่งยาดังกล่าวเป็นยาที่พบอยู่ในห้องนอนของลูกชายตอนหมดสติ โดย นายเอกชัย ยังเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชาย ได้ส่งข้อความทางไลน์ไปหาภรรยาตน (แม่เด็ก)ในลักษณะขอโทษ แต่ว่าจนเองก็ยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียด ส่วนภายในบ้านที่พบลูกชายนอนหมดสติ เบื้องต้นตนไม่สังเกตเห็นถึงร่องรอยการต่อสู้ ส่วนตัวแล้วตนกับภรรยาจะพักอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ย่านสายไหม ส่วนบ้านหลังนี้จะให้ลูกชายที่เป็นพี่น้องกันอาศัยอยู่