นายกฯ วางแนวคิดแก้ปัญหาภูเก็ตรอบด้าน พร้อมร่วมเปิดงานเรือหรูนานาชาติ

นายกฯ วางแนวคิดแก้ปัญหาภูเก็ตรอบด้าน พร้อมร่วมเปิดงานเรือหรูนานาชาติ

21909 ม.ค. 68 15:56   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

นายกฯ วางแนวคิดแก้ปัญหาภูเก็ตรอบด้าน หวังยกระดับเป็น“พรีเมียมท่องเที่ยว” เน้นย้ำปราบมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล พร้อมร่วมเปิดงานเรือหรูนานาชาติ

(9ม.ค.68) เวลา 10.50 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว พร้อมรับฟังภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และแนวทางการแก้ปัญหาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) รวมถึงผลักดันภูเก็ตเป็น Premium Destination และรองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ (Big Event) โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม , นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประชุม

 

นายโสภณ กล่าวรายงานสรุปว่า รายได้ส่วนใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตมาจากภาคการท่องเที่ยว และบริการ ร้อยละ 92.9 รายได้จากการท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2567 มีมูลค่ากว่า 481,377 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2566 ร้อยละ 24 เป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ และมีนักท่องเที่ยว ในปี พ.ศ. 2567 จำนวน 12,898,898 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2566 ร้อยละ 14.14  


นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า มีเที่ยวบินตรงจากประเทศต่าง ๆ 21 ประเทศ รวมกว่า 53 เมือง ปัจจุบันมีเที่ยวบินเฉลี่ยสัปดาห์ละกว่า 2,572 เที่ยว หรือ 368 เที่ยวบินต่อวัน และมีท่าเรือน้ำลึกเพื่อรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ขาเข้า – ขาออก เฉลี่ย 2 เที่ยวต่อสัปดาห์ รวมถึงท่าเรือมารีน่ารองรับเรือยอช์ตที่ทันสมัยในระดับโลกถึง 5 แห่ง มีเที่ยวเรือขาเข้า – ขาออก เฉลี่ย สัปดาห์ละ 13 ลำ

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้นำเสนอประเด็นการพัฒนาพื้นที่ที่ต้องการให้รัฐบาล สนับสนุน จำนวน 6 ประเด็น ได้แก่


1.การจัดการจราจร ขอเร่งรัดและขอรับการสนับสนุน ดังนี้


โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดที่อยู่ระหว่างดำเนินการของกระทรวงคมนาคม 4 โครงการ ได้แก่  


  1. อุโมงค์กะทู้ - ป่าตอง ดำเนินการโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 
  2. ทางพิเศษ เมืองใหม่ – เกาะแก้ว - กะทู้ ดำเนินการโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 
  3. การขยายช่องจราจร ทางหลวง 4027 (พารา-เมืองใหม่) ดำเนินการโดยกรมทางหลวง 
  4. การก่อสร้างทางยกระดับเมืองใหม่ – สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต ดำเนินการโดยกรมทางหลวง

 


โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดที่ดำเนินการโดยจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ 


  1. สามตระกูลภูเก็ต (เอกวานิช กุลวานิช และศักดิ์ศรีทวี) บริจาคที่ดิน ให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ เส้น ภก. 3030 - อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ความยาว 6 กิโลเมตร กว้าง 12 เมตร
  2. การปรับปรุงถนนสายรองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด 18 สายทาง 
  3. การปรับปรุงถนนสายรอง อ้อมหลังวัดท่าเรือไปเชิงทะเล (ทางหลวง 4025 – ภก. 3030) ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง
  4. โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ตด้วยระบบไฟจราจร AI ดำเนินการโดย แขวงทางหลวงภูเก็ต
  5. ระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้ารางเบา

 

2.การจัดการน้ำ ได้แก่ 


  1. น้ำดี (น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค) การให้บริการประชาชน ติดลบ 0.5คิว/ปี ซึ่งหากไม่มีโครงการบริหารจัดการความจุของอ่างเก็บน้ำให้ดี อาจส่งผลให้เกิดปัญหา การขาดแคลนน้ำในอนาคต อันเนื่องมาจากการขยายตัวของเมืองและการเพิ่มขึ้นของประชากรในพื้นที่ 
  2. น้ำเสีย ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพในการบำบัดน้ำเสีย 85,862 คิว/วัน ซึ่งยังไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมทั้งจังหวัด โดยจังหวัดได้ร่วมกับ China Water Environment Group ประเทศจีน ในการศึกษาสำรวจและออกแบบระบบ บำบัดน้ำเสีย 10 แห่ง โดยใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดำเนินการต่อไป

 

3.การจัดการขยะ 


  • จังหวัดภูเก็ตมีปริมาณขยะโดยเฉลี่ย 1,100 ตันต่อวัน ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตกำลังก่อสร้าง เตาเผาตัวที่สอง ที่จะกำจัดขยะได้ 500 ตันต่อวัน เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง ด้วยเหตุนี้ จังหวัดจำเป็นต้องมีศูนย์กำจัดขยะแห่งใหม่ (แห่งที่สอง) ที่จะดำเนินการโดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่บริเวณสวนป่าบางขนุน อำเภอถลางต่อไป

 

4.การจัดการภัยพิบัติ 


  1. น้ำท่วม จังหวัดภูเก็ตขอรับการสนับสนุน โดยใช้งบประมาณของกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม คลองท่าเรือ - เกาะแก้ว และคลองนาลึก ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง งบประมาณ 263,600,000 บาท ดำเนินการโดยสำนักงานโยธาธิการและ  ผังเมืองจังหวัดภูเก็ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ แก้ไขปัญหาการกัดเซาะริมตลิ่ง และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน 
  2. ดินถล่มจังหวัดภูเก็ต ขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาจุดเสี่ยงการเกิดดินถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามการศึกษาพื้นที่เสี่ยง ของกรมทรัพยากรธรณี โดยเฉพาะในพื้นที่กะรน และพื้นที่กมลา ดำเนินการโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต

 

5.ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว 


  • จังหวัดภูเก็ตขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการดำเนินโครงการสร้าง ความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวด้วยระบบกล้องวงจรปิด และการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ผ่านอาสาสมัครต่าง ๆ

 

6.การรักษาสุขภาพ 


  • จังหวัดภูเก็ตขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์มะเร็ง-รังสีรักษา โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่

 

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ตและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวว่า ลงพื้นที่มาติดตามงาน ซึ่งอย่างที่เห็นปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยว ตัวเลขใกล้กลับเข้ามาเหมือนเดิม ก่อนช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้ว ซึ่งถือว่ามีการปรับตัวที่ดี นักท่องเที่ยวประมาณเกือบ 1/4 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดมาจังหวัดภูเก็ต 


ซึ่งอยากจะให้เน้นเรื่อง“พรีเมียมท่องเที่ยว” รวมทั้งอยากให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น เพราะอยากจะสนับสนุนชาวบ้านที่ทำมาค้าขายตรงนี้ให้เต็มที่ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงแนวทางในการทำ“โบตแท็กซี่”(Boat Taxi) ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยวและการเดินทางในทุกท่าเรือของจังหวัดภูเก็ต หากเอกชนเข้ามาช่วยตรงนี้อย่างเต็มที่ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ทั้งใบอนุญาตหรือท่าเรือที่ปลอดภัย ก็สามารถเกิดธุรกิจขนาดใหญ่ในภูเก็ตกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ

 

ในส่วนการเดินทางในพื้นที่ภูเก็ต ถนนหลักสาย 402 เมื่อมีปริมาณคนใช้มากขึ้น จึงสั่งการว่า การก่อสร้างที่ได้รับงบประมาณแล้ว ขอให้เร่งให้แล้วเสร็จเพราะจะช่วยประชาชนได้เป็นอย่างมาก เช่น มีการก่อสร้าง 19 จุด ในพื้นที่ 25 กิโลเมตร ต้องใช้ความร่วมมือจากจังหวัดและตำรวจ ซึ่งต้องสื่อสารกับประชาชนรวมทั้ง Mass Transport ที่เชื่อมต่อเมื่อนักท่องเที่ยว ถึงสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง ก็มีความจำเป็นซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ได้แปลว่าแย่งหรือทำลายบางอาชีพลง แต่เป็นการปรับตัวให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ โดยการจัดการคมนาคมในระยะสั้นถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะก่อสร้างแต่ละจุดแล้วเสร็จใช้เวลาหลายปี พร้อมกับการส่งเสริมรถขนส่งมวลชนไฟฟ้าหรือบัสอีวี เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ต้องดูว่าการเพิ่มจำนวนนั้นใช่คำตอบที่แท้จริงหรือไม่ จึงอยากพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการใช้งบประมาณโดยไม่เห็นผลต่าง

 

ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี ระบุว่านโยบายเรื่อง Soft Power เรากำลังจะเน้นย้ำในเรื่องการจัดให้ประเทศไทยมีเทศกาลด้านการท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ในพื้นที่ภูเก็ต โดยตำรวจท่องเที่ยวอยากให้มีการจัดการประชุมแยกออกมาเพราะอยากให้มีการจัด (Reset) ระบบใหม่อะไรที่ใช้มานานแล้ว ก็ควรที่จะปรับเปลี่ยน เพราะการท่องเที่ยวมีการใช้ AI หรือเทคโนโลยีเข้ามาทุกอย่างจึงสามารถเช็กได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาบุคลากรอยากให้ภาครัฐซัปพอร์ตอย่างไรก็ขอให้มาพูดคุยกัน เพราะรายได้ของการท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้หลัก ถึงต้องโฟกัสตรงนี้และดูแลให้ดี

 

ขณะที่ การปราบผู้มีอิทธิพล ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโฟกัสเรื่องนี้จริงจังเพราะไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วจะไปพูดได้ว่า อย่างนี้คนมีตังค์มีอิทธิพลขึ้นมาก็จบแล้ว ประชาชนไม่ได้ถูกรับการดูแล ผู้มีอิทธิพลทำให้ผู้ไม่มีอิทธิพลถูกบี้ เป็นหนี้เป็นสิน ถูกขู่เข็ญเรื่องเงินทองเรื่องการโดนหลอก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีปัญหาของประชาชน ในภาคที่เล็กลงไปมาก ๆ เขาเดือดร้อนหนัก จึงอยากเน้นย้ำเรื่องของกฎหมายให้ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว ไม่อยากให้มีการละเว้น การใช้กฎหมายอย่างจริงจังประชาชนจะได้รู้สึกปลอดภัยและประเทศชาติมีระเบียบมากขึ้น ตนจึงอยากให้เน้นย้ำ

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องขยะ อยากให้พื้นที่จังหวัดจัดทำการรณรงค์ การคัดแยกขยะและการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชนในพื้นที่ 

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังท่าเทียบเรือ ภูเก็ต ยอช์ต ฮาเว่น จังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นประธานเปิดงาน Thailand International Boat Show A Luxury Lifestyle Event 2025


ที่มา : รัฐบาลไทย


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง