เตือนพื้นที่ท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา"ระบายน้ำเพิ่ม รีบยกของขึ้นที่สูง
เตือนพื้นที่ท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา"ระบายน้ำเพิ่ม รีบยกของขึ้นที่สูง
เตือนพื้นที่ท้าย"เขื่อนเจ้าพระยา"ระบายน้ำเพิ่ม รีบยกของขึ้นที่สูง แจ้ง 11 จังหวัดภาคกลางเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ
(28ก.ย.67) ที่ จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทาน ได้ออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย
- อุทัยธานี
- ชัยนาท
- สิงห์บุรี
- อ่างทอง
- พระนครศรีอยุธยา
- สุพรรณบุรี
- ลพบุรี
- ปทุมธานี
- นนทบุรี
- สมุทรปราการ
- กรุงเทพมหานครฯ
ที่ต้องเตรียมการรับมือปริมาณน้ำที่จะเกิดขึ้นจากอิทธิพลจากร่องมรสุม ที่จะทำให้ฝนตกหนักทางตอนบนและภาคกลางของประเทศ มีผลทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นแถึง2,350 ลบ.ม./วิ ทำให้ต้องมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดขึ้นไปในเกณฑ์ไม่เกิน2,000ลบ.ม./วิ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นอีก 1 - 1.5 ม.
ล่าสุดสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยากุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลางได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้น เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน โดยพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด(08.00น.) วัดได้ 1,934 ลบ.ม./วิ(ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงเล็กน้อย ล่าสุดวัดได้ 16.43 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบาย ขึ้นไปที่ 1,848ม./วิ เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 70 ซม.ในรอบ24ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.09 ม.รทก.
ทั้งนี้จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์ไม่เกิน 1,900ลบ.ม./วิ ของเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 30 - 60 ซม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
วันนี้ผู้สื่อข่าวของเราลงพื้นที่ชุมชนวัดศาลาขาว ม.4 ต.ตะหลุก อ.สรรพยา ซึ่งเป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งตะวันออก น.ส.ศิริวรรณ พรมยา แม่ค้าร้านขายของชำในพื้นที่ บอกว่า ในช่วง 2 วัน ที่ผ่านมาระดับน้ำสูงขึ้นเร็วมาก จนถึงวันนี้ระดับนั้นก็เริ่มปริ่มตลิ่งเอ่อขึ้นมาท่วมสวนของชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่นอกคันเริ่มตื่นตัว พากันทยอยเก็บของขึ้นสู่ที่สูงเพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม
น.ส.ศิริวรรณ บอกอีกว่า ส่วนของตนเองก็มีแผนไว้ในใจแล้วถ้าเกิดน้ำท่วมพื้นที่ ซึ่งร้านของตนจะได้รับผลกระทบก่อน เพราะอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปีก่อน ๆ เวลาน้ำท่วมก็จะขนของในร้านขึ้นไปตั้งขายบนจุกอพยพบนถนนคันคลองมหาราช แต่ปีนี้ตนยอมรับว่าเหนื่อย คงต้องยอมเลิกกิจการชั่วคราว จะไม่ขนของขึ้นไปขายที่จุดอพยพเพราะเหนื่อยทั้งขนของ
"เหนื่อยทั้งการเดินทางที่ลำบากเพื่อไปรับของในเมืองมาขาย ทำให้ไม่คุ้มที่จะลงทุนอพยพร้านขึ้นไป ปีนี้จึงจำใจต้องเลิกกิจการไว้ชั่วคราวในช่วงน้ำท่วม" น.ส.ศิริวรรณ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง