แฉเจ้าอาวาสวัดดัง หลอกยืมเงินลูกศิษย์ 9.2 ล้านบาท สุดท้ายเบี้ยว ท้าให้ยึดโบสถ์

แฉเจ้าอาวาสวัดดัง หลอกยืมเงินลูกศิษย์ 9.2 ล้านบาท สุดท้ายเบี้ยว ท้าให้ยึดโบสถ์

143004 ก.ย. 67 16:31   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

แฉเจ้าอาวาสวัดดัง หลอกยืมเงินลูกศิษย์ 9.2 ล้านบาท สุดท้ายเบี้ยว ท้าให้ยึดโบสถ์ พ้อปัจจุบันชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เงินส่วนใหญ่นำไปบริจาคให้กับวัดหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ได้วางแผนว่าจะไปกินยาฆ่าตัวตายที่วัดนี้

(4 ก.ย.67) ที่ สายไหมต้องรอด เขตสายไหม หญิงผู้เสียหายวัย 57 ปี เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ร้องเอาผิดเจ้าอาวาสวัดดัง จ.ปทุมธานี หลอกยืมเงิน 9.2 ล้านบาท อ้างหากไม่ให้คืน ท้ายึดโบสถ์ได้เลย สุดท้ายเบี้ยว ป้าเครียดจะฟ้องยึดโบสถ์ได้ยังไง


จากการสอบถาม เศรษฐีณี (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี เผยว่า ตนมักจะไปทำบุญที่วัดดังกล่าวอยู่เป็นประจำ โดยทำตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาสองค์เก่ายังอยู่ จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จากนั้นตนได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้ และทำความรู้จักกับเจ้าอาวาส จนกระทั่งต่อมาเจ้าอาวาสได้เริ่มขอยืมเงิน โดยอ้างว่าจะนำไปบูรณะวัด 


โดยยืมครั้งละ 5,000 บาท ถึง 9,000 บาท แต่ครั้งที่มากสุดคือ 400,000 บาท รวมระยะเวลา 13 ปี ที่ผ่านมา เจ้าอาวาสยืมไปทั้งหมด 9.2 ล้านบาท พอตนทวงถามถึงเงินที่ยืมไป เจ้าอาวาสก็จะอ้างว่าให้รอได้เงินจากกฐินผ้าป้าก่อนแล้วจะทยอยคืนให้ 


ต่อมาได้ทั้งสองฝ่ายได้มีการทำข้อตกลงกันว่าถ้าไม่ได้เงินคืนจะเจ้าอาวาสให้ยึดโบสถ์ ยึดศาลาไปเลย ซึ่งผู้เสียหายก็เข้าใจว่าทำได้ แต่ด้วยความที่ก็ไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่ ผู้เสียหายจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปทวงถามกับเจ้าคณะจังหวัด จนได้มีการเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน ก่อนที่จะออกหนังสือรับสภาพหนี้ให้กับเจ้าอาวาส โดยในสัญญาระบุว่าจะชดใช้หนี้ภายในเดือน ส.ค. ที่ผ่าน 


แต่เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดผู้เสียหายก็ไม่ได้เงินคืน พอเข้าไปทวงถามก็ถูกเจ้าอาวาสทำร้ายร่างกาย บีบคอ และถีบ เมื่อถามว่าทำแบบนี้กับตนได้อย่างไร เจ้าอาวาสอ้างว่า แค่ยืดขาไปโดน นอกจากนี้ เจ้าอาวาสยังได้ให้กุญแจวัด กุญแจโบสถ์ไว้เป็นหลังประกัน ถ้าไม่ได้เงินคืนก็ให้มาเอาของพวกนี้ไป ปัจจุบันชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เนื่องจากเงินส่วนใหญ่นำไปบริจาคให้กับวัดหมดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้วางแผนเอาไว้ว่าจะไปกินยาฆ่าตัวตายที่วัดนี้


ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ความจริงแล้วโบสถ์ไม่สามารถยึดได้ เรื่องนี้ต้องฝากไปถึงพระคุณเจ้าคู่กรณีว่า คุณป้าเป็นคนดี เรื่องเอกสารที่ตกลงกันไว้ว่าจะชดใช้หนี้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่าน ท่านก็ต้องทำตามข้อตกลง ซึ่งเบื้องต้นจะมีการประสานไปยังรองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกาให้ไปติดตามเรื่องนี้ ขณะเดียวกันวันนี้ นายเอกภพ ก็จะลงพื้นที่ไปติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเองเช่นกัน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง