บุกทลายเหมืองบิทคอยน์ลักใช้ไฟฟรีหลายล้านบาท

บุกทลายเหมืองบิทคอยน์ลักใช้ไฟฟรีหลายล้านบาท

56904 มิ.ย. 67 19:51   |     AdminNews

กฟภ.เซ็ง! เจอเหมืองบิทคอยน์ซ่อนในอาคารกลางเมือง แอบต่อตรงลักใช้ฟรีมานานนับปีอำพรางระบบตรวจสอบ คาดมูลค่าเสียหายเดือนละหลายแสนบาท

วันที่ 4 มิ.ย.67 เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 ภาคเหนือและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ ร่วมกับ ชุดสืบสวน สภ. แม่ปิง นำหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นในโครงการใจแก้วเอราวัณหมู่ 3 ตำบลหนองหอยอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังตรวจสอบพบว่าอาคารพาณิชย์หลังนี้มีกิจกรรมการใช้กระแสไฟฟ้ามากผิดปกติและยังพบการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าจากมิเตอร์ เชื่อว่าจะแอบขโมยกระแสไฟฟ้าไปทำเหมืองขุดบิทคอยน์  

จากการตรวจสอบพบเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ล็อคประตูไว้และไม่มีใครอยู่ด้านใน เจ้าหน้าที่ใช้บันไดพาดปีนขึ้นไปเข้าทางระเบียงชั้น 2 ซึ่งเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อลงมาปลดล็อคประตูชั้นล่าง จากการตรวจสอบบนชั้นที่ 2 ของตัวอาคารพบมีการทำเป็นเหมืองขุดบิทคอยน์ตามที่สันนิษฐานไว้ โดยพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นซีพียูที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตพร้อมอุปกรณ์จ่ายไฟทั้งหมด 40 ชุด มีการทำตู้เบรกเกอร์ไว้รองรับโดยเฉพาะ อุปกรณ์ทั้งหมดยังคงเปิดทำงานอยู่ตลอดเวลาและยังพบว่ามีการเจาะผนังติดตั้งพัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ให้กับอุปกรณ์ขุดบิทคอยน์นับ 10 ตัว พร้อมกำแพงบล็อกเสียง 


การตรวจค้นครั้งนี้ไม่พบผู้ดูแลหรือผู้เช่าอาคารพาณิชย์คูหานี้ เบื้องต้นได้ตัดกระแสไฟฟ้าและถอดปลั๊กตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง จะขยายผลติดตามจับกุมผู้เช่าอาคารและเจ้าของอุปกรณ์ทั้งหมดมาดำเนินคดี 

นายอภิรักษ์ ถิ่นพิทยานุรัตน์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โดยปกติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีการตรวจสอบการใช้กระแสไฟฟ้าเป็นประจำอยู่แล้ว ล่าสุดพบว่าอาคารพาณิชย์หลังนี้มีการใช้ไฟมากผิดปกติและคาดว่าจะมีการละเมิดการใช้ไฟฟ้าจึงเข้าตรวจสอบ และพบว่าตราตะกั่วที่ผูกกับมิเตอร์ถูกทำลายและมีการต่อกระแสไฟตรงเข้าไปใช้ในอาคาร ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์พิเศษตรวจจับจุดความร้อนภายในอาคารจนเชื่อว่าเป็นเหมืองขุดบิทคอยน์  


สำหรับอาคารพาณิชย์หลังนี้พบว่าแต่ละเดือนมีจำนวนหน่วยการใช้ไฟสูงมาก หากคิดเป็นค่าไฟฟ้าจะตกเดือนละหลายแสนบาท แต่กลับพบว่าเสียค่าไฟฟ้าเดือนละ 6-7 พันบาทเท่านั้น เมื่อตรวจสอบในระบบทำให้พบว่ามีการลักทรัพย์กระแสไฟฟ้าไปใช้ประมาณ 93 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 7 เปอร์เซ็นต์ จ่ายค่าไฟตามปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และจากการตรวจสอบพบว่าอาคารหลังนี้ทำสัญญาเช่าไว้ 24 เดือน คาดว่าจะลักลอบทำเหมืองขุดบิทคอยน์และขโมยกระแสไฟฟ้าไปใช้มาแล้วนานนับปีซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ ต้องไปตรวจสอบข้อมูลการใช้ไฟย้อนหลัง แต่คาดว่าจะหลักหลายล้านบาท 

นอกจากอาคารพาณิชย์หลังนี้ เวลาไล่เลี่ยกันเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์อีก 2 แห่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ และ อ.สันทราย พบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับขุดบิทคอยน์อีกจำนวนมากซึ่งทั้งสองจุดอยู่ระหว่างการขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด  


ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ยังมีอีกหลายจุดที่ลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าทำเหมืองบิทคอยน์ มีทั้งคนไทยและต่างชาติซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเดินหน้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาดเพราะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับรัฐและมีมูลค่าความเสียหายมหาศาล 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง