ชุมชนอยุธยากว่า 120 หลังคาเรือน น้ำหนุนเข้าท่วมเต็มพื้นที่
ชุมชนอยุธยากว่า 120 หลังคาเรือน น้ำหนุนเข้าท่วมเต็มพื้นที่
น้ำท่วมเต็มพื้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์ หมู่ 2 ตำบลหัวเวียง น้ำขึ้นสูงไม่หยุด
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากการที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตรา 2,199 ลบ.ม./ต่อวินาที ส่งผลทำให้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและแม่น้ำน้อย ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงตามไปด้วย ระดับน้ำท่วมในพื้นที่อยู่แล้วเพิ่มสูงขึ้นอีกเฉลี่ย 20 – 30 เซนติเมตร
ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สำรวจพบว่าที่ชุมชน หมู่ที่ 2 ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าภายในชุมชน ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2 – 3 เมตร ถนนทางเข้าชุมชนถูกน้ำท่วมสูง รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ชาวบ้าน ต้องใช้เรือและเดินลุยน้ำ ในการเข้าออกชุมชนและต้องนำรถยนต์ รถจักรยานนยนต์ มาจอดไว้บนสะพานและริมถนน
ขณะเดียวกันพบว่า นางสาว ปทุมพร สัญญะชิด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังนำชาวบ้าน วัยรุ่น ในชุมชน เข้าไปช่วยเหลือ ที่โรงเรียนวัดหัวเวียง ขนย้ายขยับ โต๊ะเก้าอี้ อุปกรณ์ประกอบอาหารเครื่องครัว ตู้เย็น ให้สูงกว่าเดิมที่ขนหนีน้ำเอาไว้เนื่องจากระดับในแม่น้ำน้อย ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอีกหลังจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายอย่างต่อเนื่อง
นางสาวอังศุธร การสมเนตร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหัวเวียง(เขมสุทธิวิทยาคาร) กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนแล้ว ได้มีการขนอุปกรณ์การเรียนสื่อการสอนและสิ่งของต่างๆของทางโรงเรียนขึ้นไว้ที่สูงแล้วโดยเฉพาะบริเวณโรงอาหาร ซึ่งจะมีอุปกรณ์ในการประกอบอาหารเครื่องครัวตู้เย็นและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ทางโรงเรียนได้ยกขึ้นสูงไว้แล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้ขณะนี้ทราบว่าจะมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีกถึง 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เกรงว่าหากน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก
นางสาว ปทุมพร เปิดเผยว่า ในชุมชน หมู่ที่ 2 ตำบลหัวเวียง มีบ้านเรือนชาวบ้าน 120 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมทั้งหมดแล้ว ถูกน้ำท่วม 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือถนนทางหลักนิดหน่อยกับสะพานเป็นจุดที่สูงที่สุดของชุมชน วันนี้ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากทางผู้อำนวยการโรงเรียนให้มาช่วยกันขนย้ายขยับสิ่งของหนีน้ำให้ขึ้นสูงอีกเพราะระดับน้ำสูงขึ้น มีแนวโน้มน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก จึงนำทีมงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและผู้ชาย ที่อยู่ในหมู่บ้าน เราได้จัดเตรียมกำลังเตรียมความพร้อมเอาไว้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและทางวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อคอยช่วยเหลือชาวบ้านตั้งแต่น้ำเริ่มขึ้นสูง
โดยเฉพาะชาวบ้าน-บ้านเรือนของชาวบ้านหลายหลังน้ำท่วมถึงพื้นบ้าน ต้องยกของหนีน้ำ ต้องหนุนบ้านเราจะเข้าไปช่วยเหลือ รวมไปถึงเราได้เตรียมศูนย์พักพิงไว้หากบ้านไหนน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้สามารถไปพักอาศัยอยู่ได้ รวมถึงมีการจัดเวรยามเฝ้ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่หนีน้ำตลอด 24 ชั่วโมง