โฆษกฯ สธ.เผยคำบอกเล่า"ด.ญ."ผู้รอดชีวิต นาทีเห็นไฟไหม้รถเป็นคนแรก

(1ต.ค.67) กรณีเหตุ"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน"ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ความคืบหน้า ที่ รพ.แพทย์รังสิต น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นประธานนักเรียน ขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้เล่าให้ฟังว่า น้องนั่งอยู่บริเวณท้ายรถบัสนั่งอยู่กับพื้น ซึ่งรถบัสคันที่เกิดเหตุมีทั้งหมดสองชั้นและมีนักเรียนนั่งเต็มทั้งสองชั้น โดยน้องเป็นคนที่เห็นเพลิงไฟลุกไหม้บนรถบัสคนแรก โดยน้องเห็นตอนที่ล้อรถบัสแตกแล้วเสียหลักไปชนแบร์ริเออร์ข้างทาง แล้วมีเพลิงไหม้ขึ้นมาในรถ

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อไปว่า น้องมีสติมาก ๆ ในวินาทีนั้นน้องไปดึงประตูด้านหลังรถบัส แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเปิดได้ จึงขึ้นไปที่ชั้นสองของรถบัส แล้วในจังหวะนั้นน้องบอกว่าควันไฟเต็มรถบัสจนหายใจไม่ออกและมองไม่เห็นจึงกลั้นไม่ออก แต่น้องก็พยายามช่วยเหลือคนที่อยู่ชั้นสองของรถบัสออกมา เนื่องจากน้องอนุบาลอยู่บริเวณชั้นสอง จึงต้องนำน้องอนุบาลออกก่อนโดยพาออกที่ประตูด้านหน้าของรถบัส 

"น้องสะเทือนใจมากเพราะช่วยน้องอนุบาลออกมาจากรถบัสได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนของน้องทั้งสามคนออกมาได้ โดยช่วยไม่ทัน เรื่องนี้ทำให้น้องค่อนข้างสะเทือนใจหนัก" น.ส.ตรีชฎา ระบุ 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งทีมแพทย์เยียวยาสุขภาพจิตไปดูแลอย่างใกล้ชิดในเรื่องสุขภาพจิตของทั้งนักเรียนที่รอดชีวิตนักเรียนที่มีอาการบาดเจ็บรวมทั้งครูที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ปกครอง เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นและจะต้องเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนยังสะเทือนใจมากในตอนนี้

ในขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ ได้มีการแถลงเพิ่มเติมถึงการรักษาของเด็กนักเรียนและครูที่รอดชีวิต แต่มีอาการบาดเจ็บและสาหัสว่า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลทั้งเรื่องการรักษาพยาบาลและค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด โดยจากการเช็กโรงพยาบาลในกทม. พบว่า ในช่วงเย็นหลังจากที่ทางอาสาสมัครกู้ภัยได้เร่งลำเลียงครูและนักเรียนที่มีอาการบาดเจ็บและสาหัสจำนวนทั้งหมด 5 ราย ออกมาจากรถบัสคันเกิดเหตุ  

"ตอนแรกตั้งใจจะนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลแพทย์รังสิต แต่ปรากฏว่าด้วยช่วงเย็นที่มีรถติดจึงมีการเปลี่ยนแผนส่งผู้บาดเจ็บทั้งหมดมารักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเท่านั้น" นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทำให้ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตมีจำนวนผู้รักษาทั้งหมด 5 คน เป็นครูสองคน ซึ่งครูรายหนึ่งที่มีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหลังจากได้ทำบาดแผลแล้วก็สามารถกลับบ้านที่จังหวัดอุทัยธานีได้ แต่อีกรายหนึ่งยังคงต้องรักษาต่อที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต

สำหรับนักเรียนจำนวน 3 ราย ไดเรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเช่นกัน ประกอบด้วย 

1. ด.ญ. อายุ 7 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.1 มีอาการวิกฤตจะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยมีแผลรอยไหม้บนใบหน้า กระจกตา ช่องปาก และมือขวา ซึ่งมีความเสี่ยงว่าอาจตาบอด ต้องติดตามอาการรายวันอย่างใกล้ชิด ทำให้ทีมแพทย์ที่รักษาตัดสินใจย้ายการรักษาของด.ญ.รายนี้ ไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
2. ด.ญ. อายุ 9 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.3 มีอาการวิกฤตเช่นกัน โดยมีรอยไหม้คล้ายกันกับ ด.ญ.อายุ 7 ปี ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ทำให้ทีมแพทย์ที่รักษาตัดสินใจย้ายการรักษาของด.ญ.รายนี้ ไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต
3. ด.ญ. อายุ 14 ปี เป็นประธานนักเรียนและยังเป็นรุ่นพี่ที่ช่วยเหลือเด็กนักเรียนในรถออกมาขณะที่เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ อายุ 14 ปี ถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย อาการไม่หนักเท่าเด็กนักเรียนอีก 2 คน โดยมีสติและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุได้ ทำให้ทีมแพทย์ที่รักษาตัดสินใจย้ายไปที่สถาบันสุขภาพเด็กราชินีแห่งชาติมหาราชินี

"ยืนยันว่าไม่มีทั้งครูและนักเรียนที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยเมื่อช่วงเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ได้มารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณทางเข้าฉุกเฉินของโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จากนั้นได้มีรถพยาบาลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จำนวน 2 คัน เพื่อมารับผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤตคือ ด.ญ. อายุ 7 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.1 และ ด.ญ. อายุ 9 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.3 ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต และมีรถพยาบาลอีกคันมารับผู้ป่วยที่มีอาการไม่วิกฤตคือ ด.ญ. อายุ 14 ปี เป็นประธานนักเรียน ไปรักษาต่อที่สถาบันสุขภาพเด็กราชินีแห่งชาติมหาราชินี ทำให้ตอนนี้ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตมีเพียงครูรายหนึ่งที่ยังคงต้องรักษาอยู่ที่นี่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครูเผยนาทีรถยางระเบิดก่อนเกิดเพลิงไหม้ วิ่งปรี่เข้าไปอุ้มเด็กออกมาทันทีจนมือพอง

"บิ๊กต่าย"รรท.ผบ.ตร. เผยสาเหตุโศกนาฏกรรม"ไฟไหม้รถบัสนักเรียน"

นิติเวช รพ.ตร.เปิดศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน