เซียนพระขี่จยย.ตัดหน้ารถเก๋ง โดนชนดับคาที่

เซียนพระขี่จยย.ตัดหน้ารถเก๋ง โดนชนดับคาที่

23224 พ.ค. 67 14:27   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เซียนพระวัย 57 ปีขี่จยย.ข้ามถนนตัดหน้ารถเก๋ง โดนพุ่งชนอย่างจังเสียชีวิตคาที่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 พ.ต.ต.จิรัชย์ บัวล้อม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี สายแก่งเสี้ยน-วังสารภี จึงประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ รวมตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุ เป็นถนนฝั่งละ 2 เลน มีเกาะกลางที่เป็นร่องน้ำ พบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีแดง ทะเบียน xช-36xx กทม. จอดอยู่เลนขวาสุด สภาพกันชนด้านหน้าฉีก กระจกหน้าแตกเป็นหลุม มีเศษเนื้อและเส้นผมติดอยู่ 


ที่ร่องเกาะกลางถนน พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาวส้ม ทะเบียน xกค-93xx กาญจนบุรี สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย และพบผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่กลางร่อง กลางถนน ทราบชื่อต่อมาคือ นายเสริมสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เป็นชาว ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หรือ เซียนติ่งพระเครื่อง อาชีพ รปภ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง สภาพศพกะโหลกแตก หนังศีรษะเปิด คอกับแขนขวาหัก ผู้เสียชีวิตได้ห้อยพระหลายองค์ 

โดยพบกระเป๋าหนังข้างในมีวัตถุมงคล พระเครื่อง อาทิ พระปิดตาหลังยันต์ , หลวงปู่โต๊ะ , พระหล่อท่านพ่อคล้ายเนื้อทองเหลือง , กล้องส่องพระ , พวงกุญแจรถกุญแจบ้าน , เงินสดจำนวนหนึ่ง , โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และพาวเวอร์แบงค์ 1 อัน ไม่พบเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน จึงนำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เพื่อรอให้ญาติมาติดต่ออีกครั้งหนึ่ง 



ส่วนคนขับรถเก๋ง ทราบชื่อคือ นายศิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เป็นชาว ต.หนองสรวง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งประกันภัย โดยเจ้าตัว ระบุ ขับรถออกมาจากบ้าน ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตขี่จยย.มาจากข้างซ้าย แล้วขี่ตัดหน้ารถของตนกะทันหัน ตนไม่สามารถเบรกได้ทัน จึงเกิดเหตุสลดขึ้น



ด้านตำรวจได้ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต โทรติดต่อสอบถามข้อมูลของผู้เสียชีวิต จึงได้ทราบว่าข้อมูลส่วนตัวและแจ้งให้ญาติทราบ และตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามข้อมูลผู้ที่อยู่รอบๆบริเวณที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาประกอบในการสอบสวน ก่อนนำตัวคนขับรถเก๋ง ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ รวมทั้งรอญาติของผู้เสียชีวิต มาติดต่อเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง