เจ็บกว่าเจอมิจฉาชีพ แม่ร้องลูกหลอกเงินเกือบ 9 ล้าน

เจ็บกว่าเจอมิจฉาชีพ แม่ร้องลูกหลอกเงินเกือบ 9 ล้าน

72528 มิ.ย. 67 17:42   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เจอแบบนี้เจ็บกว่าเจอมิจฉาชีพ! แม่ร้องถูกลูกสาวหลอกเงินเกือบ 9 ล้าน หมดตัวแถมเป็นหนี้ธนาคารก้อนใหญ่ ทั้งหมดเพราะเชื่อใจลูกบอกจะเอาไปเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง

(28 มิ.ย. 67) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พา น.ส.รัตน์ตะวัน อายุ 47 ปี ผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป.ร้องขอความช่วยเหลือคดีที่ถูก น.ส.พัชรินทร์ อายุ 30 ปี ลูกสาวที่เกิดกับสามีเก่า ใช้กลอุบายฉ้อโกง ทรัพย์เป็นเงินจำนวนเกือบ 9 ล้านบาท แจ้งความ สน.หนองจอก เมื่อ 30 พ.ค.ผ่านมา 1 เดือนคดีไม่คืบหน้า


น.ส.รัตน์ตะวัน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานเป็นเสมียนประจำร้านค้าวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านคลองสามวา ซึ่งเป็นร้านของผู้เสียหายกับสามีคนปัจจุบัน จนเมื่อช่วงปลายปี 2564 ลูกสาวเดินมาบอกว่าจะขอให้แม่เปิดหน้าร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ตนซึ่งเป็นแม่พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีที่ลูกจะมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ประกอบกับลูกเคยทํางานเป็นเสมียนก่อสร้างมาก่อน และตนก็ทํางานเกี่ยวกับด้านนี้จึงตัดสินใจลงทุนเปิดหน้าร้านให้กับลูกสาว


โดยในช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร แม่สามารถเข้าดูเงินเข้า-ออก จากบัญชีของบริษัทได้ กระทั่งมาในปี 2565 เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของลูก เนื่องจากมีการเปลี่ยนบัญชีโอนเงินเป็นชื่อผู้ชายไม่ใช่ในนามบริษัท โดยลูกอ้างว่าบัญชีบริษัทที่เคยโอนเขาเปลี่ยนบัญชี ตนจึงไม่ติดใจแล้วโอนตามที่ลูกบอกมาโดยตลอด



หลังจากนั้นพบว่าไม่สามารถเข้าไปดูบัญชีของบริษัทได้ จึงสอบถามลูก ซึ่งเขาเหมือนจ้างให้หน้าม้ามาบอกว่าแอปบัญชีธนาคารของตนมีปัญหา จนมาวันสุดท้าย 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนบอกกับลูกว่าแม่ไม่มีเงินแล้ว หลังจากนั้นในช่วงเย็นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีก จึงไปหาสามีลูกที่บ้าน เขาบอกว่าเลิกกับลูกของตนมาปีกว่าแล้ว จึงทําให้รู้ว่าถูกลูกสาวหลอก รวม 3 ปี โอนเงินให้ลูกไปเกือบ 9 ล้าน และยังมีหนี้ที่ไปกู้มาให้ลูกอีก 2 ล้านบาท


ด้านน้องสาวของผู้เสียหายมีศักดิ์เป็นน้าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมาหลานสาวได้โทรมาหาตนบอกจะขอมอบตัวกับตํารวจ เนื่องจากทราบว่าแม่ไปแจ้งความดําเนินคดีเอาไว้ ซึ่งตนได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตํารวจ แต่ตํารวจอ้างว่าไม่ว่างจึงยังไม่มีการดําเนินการใดๆ กระทั่งวันนี้ได้โทรหาอีกครั้งหลานสาวบอกจะเดินทางมาพูดคุยเพื่อขอเจรจากับแม่


ขณะที่ผู้เสียหาย กล่าวฝากถึงลูกสาวทั้งนํ้าตาว่า ที่ผ่านมาตนทํางานหนักก็เพื่อหาเงินมาให้ลูก และตั้งแต่เปิดหน้าร้านให้ก็ไม่เคยผลประโยชน์ใดๆ รู้เพียงที่ลูกบอกว่าได้กําไรเล็กน้อย ซึ่งตนก็ไว้ใจเพราะคําว่าลูก แต่ทําไมลูกถึงทํากับแม่แบบนี้


ทนายเจส นายณัฐปกรณ์ สุดชา กล่าวเพิ่มเติมว่าเบื้องต้นคดีนี้ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดําเนินคดี ในข้อหา “ฉ้อโกง” แต่หากผู้ก่อเหตุเข้ามาเจรจาและทั้งคู่สามารถตกลงได้ก็สามารถถอนแจ้งความได้ อย่างไรก็ตามหากวันนี้ผู้ก่อเหตุไม่มาตามที่บอกก็คงต้องดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เบื้องต้น ร.ต.อ.ชวรินทร์ เหล่าสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.รับเรื่องตรวจสอบแล้วประสานไปทาง สน.หนอกจอก ให้เร่งติดตามลูกสาวตัวแสบรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง