หนุ่มอสังหาฯ แจงไม่เกี่ยวแก๊งหลอกเงินคุณตา 22 ล้านบาท

(12 มิ.ย. 67) จากกรณีของคุณตาวัย 81 ปี ชาว จ.นนทบุรี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกจนสูญเงิน 22 ล้าน แบ่งเป็นเงินในบัญชีที่โอนให้ 19 ล้านบาท และอีก 3 ล้านจากการหลอกให้นำบ้านไปขายฝากกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่านักธุรกิจอสังหาฯ รายนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวหรือไม่

ล่าสุด นายเกรียงไกร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกอ้างถึง ได้เปิดใจถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับทางทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ว่า เดิมทีตนเองไม่ทราบเรื่องที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ จนกระทั่งมีคนรู้จักโทรมาบอก จึงไปดูข่าว ซึ่งมีการระบุชื่อและนามสกุลตนเองจริง ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย

กับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงอยากออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ตนเองมีอาชีพประกอบธุรกิจขายฝากและจำนองที่ดินและบ้าน ซึ่งทำธุรกิจแบบถูกต้องตามกฎหมายมากว่าสิบปี สำหรับเคสนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไรนั้นตนเองไม่ทราบ แต่ก่อนหน้านี้มีนายหน้าท่านหนึ่งติดต่อมาแจ้งว่ามีลูกค้าจะขายฝากบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นบ้านชื่อของลูกชาย จึงติดต่อพูดคุยสอบถามทางโทรศัพท์ จนทราบว่าเจ้าของบ้านคือคุณตาวัย 81 ปี และพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการขายฝากบ้าน จนคุณตาทราบและตกลงกันในราคากู้จำนวน 3 ล้านบาท แต่ต้องมีการหักภาษี และค่าธรรมเนียม รวมถึงค่านายหน้า ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งคุณตาก็ตอบตกลง

จนมีการเดินทางไปตรวจดูบ้านจริงและตกลงตามที่พูดคุย พร้อมทั้งนัดเจอที่กรมที่ดินจังหวัด จนมีการทำสัญญาขายฝากบ้านหลังดังกล่าวจากนั้น ตนเองได้จ่ายเงินตามที่ตกลง หลังจากนั้นตนเองก็โอนเงินให้นายหน้าตามที่ตกลงไว้ เป็นการทำธุรกรรมทางการเงินปกติที่เคยทำมา แต่หลังจากที่คุณตาได้เงินไปแล้ว จะเอาไปโอนให้ใครหรือทำอะไรต่อตรงนี้ตนเองไม่ทราบ

ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด พอเป็นข่าวแล้วมีการระบุชื่อตนเองทำให้ได้รับความเสียหาย จึงอยากออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ เคยมีมิจฉาชีพเอาชื่อไปแอบอ้างหรือไม่ นายเกรียงไกรยอมรับว่ามีคนเอาชื่อในนามบริษัทไปแอบอ้างเป็นบริษัทปล่อยเงินกู้  ซึ่งตนเองก็เคยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้ว แต่ทางคดีก็ไม่มีอะไรคืบหน้าจนกระทั่งมาเป็นข่าวล่าสุด