อดีตนาย ตร.ยิงตัวตายในสนามกีฬามหาวิทยาลัยดัง

วันที่ 8 มิถุนายน 2567 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเกิดเหตุชายใช้ปืนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณซอยเพชรเกษม 110 ภายใน สนามกีฬามหาวิทยาลัยธนบุรี ย่านบางแค กทม. ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่าเป็นร้านขายของอาหารตามสั่งและขายของชำอยู่ภายในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย และมีตำรวจ สน. หนองค้างพลู ทั้งชุดสืบสวนและสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า อยู่บริเวณหลังร้านที่เป็นครัวมีร่องรอยเลือดเป็นจำนวนมาก และรถพยาบาลได้นำคนเจ็บไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์แล้ว 

จากการตรวจสอบ ทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ อดีตนายตำรวจยศพันตำรวจโท อายุ 69 ปี อดีตสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู ที่เกษียณอายุราชการแล้ว ต่อมาได้รับการยืนยันจากผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู ท้องที่เกิดเหตุยืนยันว่าผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล

ทีมข่าวได้สอบถาม นาง มัณฑนา พันธ์เตี้ย อาจารย์มหาวิทยาลัยธนบุรี ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ระหว่างที่ตัวเองกำลังคัดตัวนักฟุตบอลอยู่ในสนามฟุตบอลของทางมหาวิทยาลัย ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุภรรยาของผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกว่าสารวัตรยิงตัวเองจึงได้วิ่งมาดูพร้อมกับอธิการบดีมหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงพบว่าผู้ตายนอนจมกองเลือดหายใจรวยริน แต่ไม่รู้สึกตัวจึงได้ช่วยประสานรถโรงพยาบาลเข้าช่วยเหลือก่อนนำไปรักษาตัว 

จากการสอบถามเพิ่มเติมทราบว่าปกติแล้วสารวัตรจะเป็น ร่าเริงแจ่มใสไม่เคยพบว่ามีอาการเครียดอะไรให้เห็นมาก่อน ถึงรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าสารวัตรจะก่อเหตุยิงตัวเอง 

ขณะที่ พันตำรวจเอก สุขสันต์ แสนสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่า 'พันตำรวจโท' ที่ก่อเหตุใช้ปืนยิงตัวเอง บาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเป็นตำรวจระดับสัญญาบัตรของสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งสารวัตรสืบสวน ที่ สน. ดังกล่าว เมื่อประมาณ 8 ปีแล้ว ที่ผ่านมาผู้ตายก็มาเปิดร้านค้าอยู่ภายในสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยและก็ช่วยดูแลพื้นที่ แต่ระยะหลังมีอาการป่วยโรคหัวใจจนต้องไปผ่าตัด 

ส่วนปัญหาความขัดแย้งกับบุคคลอื่นตรวจสอบแล้วว่าไม่เคยมี เพราะสารวัตรเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดีเข้ากับชาวบ้านและคนอื่นได้ทุกคนและทางอธิการของมหาวิทยาลัยยังให้ความไว้วางใจอนุเคราะห์ให้มาเปิดร้านอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยคอยเป็นหูเป็นตาดูแลความปลอดภัยให้ด้วย 

ซึ่งหลังเกิดเหตุญาติก็ไม่ได้ติดใจเพราะระหว่างเกิดเหตุมีพ่อภรรยาของผู้ตายอยู่ด้วยส่วนภรรยาของผู้ตายออกไปจ่ายตลาด จึงมีประเด็นเดียวคือเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพที่เป็นปมเหตุทำให้สารวัตรก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายใช้ปืนเอื้อมไปยิงเข้าศีรษะด้านหลังจำนวนหนึ่งนัด ซึ่งอาวุธปืนที่ใช้เป็นขนาด .38 ที่เป็นของผู้ตายเองแล้วตกอยู่ข้างตัว ซึ่งจุดเกิดเหตุผู้ตายชอบไปนั่งพักผ่อนอยู่เป็นประจำอยู่แล้วจึงได้ก่อเหตุบริเวณจุดนั้น