เด็กเอ็นฯ ร้อง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ข่มขู่ รีดทรัพย์

เด็กเอ็นฯ ร้อง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ข่มขู่ รีดทรัพย์

45329 ส.ค. 67 14:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เด็กเอ็นฯ วัย 27 ปี สุดทนร้อง สายไหมต้องรอด ถูกชายติดต่อขอซื้อบริการก่อน อ้างเป็นตำรวจกรุงเก่า ข่มขู่ รีดทรัพย์

(29 ส.ค.67) ที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานพาเด็กเอ็นฯ วัย 27 ปี เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์ ผู้เสียหายหวาดกลัวกังวลความปลอดภัย เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่26 ส.ค.67 


ทีมสายไหมต้องรอดพาผู้เสียหายไปดูจุดเกิดเหตุ นางสาวเอ นามสมมุติ เปิดเผยว่า หลังจากเขากับเพื่อนได้รับการติดต่อจากฝ่ายชายก็ให้เขามาเจอที่โรงแรมในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ในช่วงเวลาราว 22.30 น. เปิดห้องโรงแรมสองห้อง  


จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้มีการตกลงเงินที่ 1,500 บาทก่อนที่ฝ่ายชายจะสำเร็จความใคร่ และแสดงตัวเป็นตำรวจโดยมีการนำหลักฐานให้เขาดู ก่อนที่จะพาผู้เสียหายขึ้นรถไปที่หน่วยสวาท 


ด้านนายเอกภพ เล่าว่า ตนเองได้รับเรื่องจากน้องผู้เสียหายคนหนึ่ง ว่าทำงานเอนเตอร์เทน วันเกิดเหตุวันที่ 26 ต่อเนื่อง 27 สิงหาที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากผู้ชายคนหนึ่ง และมีการไปร่วมหลับนอนกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นฝ่ายชายก็มีการจ่ายเงินจำนวน 1,500 บาท ต่อมาฝ่ายชายมีการขอเงินคืนจากผู้เสียหายอ้างว่าเป็นตำรวจ เนื่องจากไม่สำเร็จความใคร่ ผู้เสียหายก็ไม่ยอมเนื่องจากได้มีการตกลงกันแล้วทำให้ชายที่อ้างเป็นตำรวจบอกว่า ถ้าไม่ยอมจะมีการจับกุม 


จากนั้นได้พาผู้เสียหายมาที่โรงพัก บอกจะส่งพนักงานสอบสวน ข้อหาค้าประเวณี ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงยอมคืนเงินจำนวน 1,500 บาทให้กับชายคนดังกล่าวไป และยังข่มขู่ขอเงินจากผู้เสียหายเพิ่มอีก 20,000 บาท 


ขณะที่ผู้เสียหายบอกว่าทางครอบครัวไม่รู้เรื่องว่ามาทำงานแบบนี้ทำให้ชายที่อ้างเป็นตำรวจจึงมีการข่มขู่เพิ่มเติม ต่อมาผู้เสียหายจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ให้อีกฝ่ายนำตัวเขาส่งพนักงานสอบสวนดีกว่า เนื่องจากยังไงโทษปรับก็มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนเงินที่อีกฝ่ายต้องการ 


ต่อมาชายที่อ้างเป็นตำรวจมีจำนวน 4 คนก็ยังมีการข่มขู่ว่าจะโทรไปติดต่อให้ญาติของผู้เสียหายมาผู้เสียหายจึงยอม เจรจาต่อรองจ่ายเงินให้กลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจจำนวน 5,000 บาท เป็นเงินสดจำนวน 4,000 และโอนเข้าบัญชีอีก 1,000 บาท โดยมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงิน 


นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายว่าจะต้องจ่ายอีกเป็นรายเดือน นอกจากการข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหายยังจะมีความพยายามนำตัวผู้เสียหายกับเพื่อนให้ไปร่วมหลับนอนกับคนอื่นๆอีก ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ตัดสินใจมาร้องขอความเป็นธรรม


โดยนายเอกภพบอกว่ายังไม่ยืนยันว่ากลุ่มชายที่ก่อเหตุนั้นเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ แต่ขณะนี้เป็นคำกล่าวอ้าง 


ด้าน พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าเคสดังกล่าวเป็นเคสที่มีการกล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองพระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็ตามต้องมีการพิสูจน์ทราบก่อนว่าผู้กระทำเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ หากพบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดจริง 


หากเป็นการกระทำโดยส่วนตัว ก็จะถือว่าเป็นความผิดในฐานะผู้ซื้อบริการ แต่ถ้าหากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นตำรวจ ใช้อำนาจหน้าที่ในการไปล่อซื้อ แล้วไม่ดำเนินการจับกุมตามกฎหมายก็จะมีความผิดในเบื้องต้นมีความผิดตามมาตรา 157 รวมถึง พ.ร.บ.อุ้มหาย และความผิดอื่นๆซึ่งถ้าเป็นการล่อซื้อจริงๆถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ใช้วิธีการที่ตำรวจปฏิบัติ ยืนยันว่าในเรื่องนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง