ตร.เผยสาเหตุใช้ 'เมทานอล' ผสมสุราขาวทำยอดดับ 6 ราย

วันที่ 30 ส.ค. 67ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมแถลงผลความคืบหน้ากรณียาดองมรณะ สรุปยอดผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิต รวมไปถึงตัวการตั้งต้น 

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยจากการดื่มยาดองและได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 โรงพยาบาลในย่าน คลองสามวา,มีนบุรี และหนองจอก จากนั้นได้มีผู้เสียชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นในวันที่ 26 ส.ค. และจากการประมวลผลในการสืบสวนสอบสวนทั้งพยานบุคคลรวมไปถึงพยานวัตถุที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น สรุปได้ดังนี้

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือ”เจ๊ปู” มือผสมยาดอง ก่อนหน้านี้ได้ทำการผสมยาดองโดยใช้สูตรของพ่อที่รับสุราขาวจากที่อื่นมาผสมกับสมุนไพรขายให้แก่ 18 ซุ้มยาดองในย่าน คลองสามวา,มีนบุรี, และ หนองจอก มาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยไม่พบปัญหาใดๆ กระทั่ง 1 ปีหลังได้เปลี่ยนคู่ค้าสุราขาวมาเป็น นายสุรศักดิ์ หรือ เอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย หรือ อาร์ท อายุ 44 ปี 2 พี่น้องที่เป็นผู้ต้องหา โดยช่วงแรกก็ไม่พบปัญหา กระทั่งวันที่ 18 ส.ค. เริ่มพบว่าสูตรสุราขาวมีการเปลี่ยนแปลง

จากการสืบสวนทราบว่า ทาง 2 พี่น้อง มีสูตรในการทำสุราขาว โดยใช้เอทานอล 3 แกลลอน แกลลอนละ 20 ลิตร รวมเป็น 60 ลิตร ผสมกับน้ำเปล่า 7 ถัง ถังละ 20 ลิตร รวมเป็น 140 ลิตร เมื่อผสมแล้วจะได้สุราขาว 200 ลิตร และนำมาแบ่งใส่ถุงได้ 6 ถุง ถุงละ 30 ลิตร ก่อนส่งขายให้เจ๊ปู โดย 2 พี่น้องได้สั่งซื้อตัวยา เอทานอล ผ่านน.ส.นฤวร ป้องศรี(ป้อน) และ นายกรกฏ วังคะฮาด(บอล) สามีภรรยา ที่เป็นผู้ค้าคนกลางไปซื้อเอทานอลที่ร้านเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกตัวสามีภรรยาดังกล่าวมาสอบปากคำแล้วพบว่า ทาง 2 พี่น้องมีการติดค้างชำระเงินกับทางป้อนและบอล จึงทำให้ 2 พี่น้องสั่งตัวเอทานอลเพิ่มไม่ได้ ส่งผลให้ล็อตในห้วงวันที่ 18 - 20 ส.ค. 2 พี่น้องมีตัวเอทานอลไม่เพียงพอที่จะผสมเป็นสุราขาวส่งขายให้เจ๊ปู 

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า 2 พี่น้องได้ไปจัดซื้อจัดหาเมทานอล มาผสมทำเป็นสุราขาว เนื่องจากพบสารเมทานอลใน 11 ถัง ในโรงงานซอยกาญจนา 25 ของ 2 พี่น้อง แต่ยังไม่ทราบว่าไปซื้อมาจากที่ใด ในส่วนนี้อยู่ในระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม

สำหรับผลการตรวจพบค่าปริมาณของเมทานอลในแต่ละที่ มีผลดังนี้ ที่โรงงาน 2 พี่น้อง 13,075 มิลลิกรัมต่อลิตร ที่บ้านเจ๊ปู 12,385 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ที่ซุ้มยาดองที่หทัยราษฎร์ 33 ซุ้มคลองสามวา 1 และ ซุ้มคลองสามวา 11/1 พบค่าเมทานอลเกิน 100,000 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งพบว่าค่าปริมาณของเมทานอลที่พบระหว่างโรงงาน 2 พี่น้อง กับซุ้มยาดองมีความแตกต่างกันมาก จึงคาดว่าสาเหตุอาจเป็นไปได้ว่า เมทานอลที่พบจากโรงงานของ 2 พี่น้อง เป็นเมทานอลที่ค้างอยู่ในถังอาจทำให้เกิดการเจือจาง

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ 2 พี่น้องนำตัวเมทานอล มาผสมทำเป็นสุราขาวแทน เอทานอลนั้น อาจจะเป็นในเรื่องของต้นทุนราคา เพราะเมทานอล มีราคาลิตรละ 59 บาท เอทานอลลิตรละ 160 บาท 

ทั้งนี้ผลการตรวจเลือดของผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อน พบว่าค่าเมทานอลสูงสุดอยู่ที่ 124 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นผู้ป่วย ที่อยู่ระหว่างการรักษาและมีประวัติเคยดื่มยาดองจากซุ้มหทัยราษฎร์ 33 

พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับข้อมูลผู้เสียชีวิตจากเคสยาดองมรณะในระบบปัจจุบันเพียง 6 รายเท่านั้น ไม่ได้เป็น 7 รายตามที่มีกระแสข่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้มีการแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ต่อ 2 พี่น้อง (เอส ,อาร์ท ) คือ "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใดเพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขายสิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ซึ่งวันที่ (31 ส.ค.) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีฝากขังผลัดแรก โดยท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง แล้วเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหากได้รับการประกันตัวชั่วคราว