บุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หลอกเพื่อนร่วมชาติลงทุนหุ้น พบเหยื่อนับพันราย

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ช่วยราชการ รอง ผบก.สส.สตม.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ถือหมายค้นเลขที่ 258/2567 บุกเข้าค้นบ้านหรูบ้านเลขที่ XX/16 ม.6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ สามารถควบคุมตัวกลุ่มชาวจีนไว้ได้ทั้งหมด 15 คน เป็นผู้ชาย 14 คน ผู้หญิง 1 คน พร้อมคอมพิวเตอร์ 18 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 90 เครื่อง 

สืบเนื่องจาก ทีมสืบสวนสืบทราบมาว่า ที่บ้านหลังดังกล่าว มีกลุ่มขบวนการชาวจีน กระทำผิดทำคอลเซ็นเตอร์เกี่ยวกับชักชวนผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนเล่นหุ้น ซึ่งจะมีการแบ่งเป็น 3 หน้าที่ โดยหน้าที่แรก จะมีการโทรศัพท์หาผู้เสียหายที่เป็นคนจีน ซึ่งจะมีกลุ่มเครือข่ายที่ทำหน้าที่ในการโทรศัพท์ โดยการโทรศัพท์นั้น จะมีการชักชวนให้ผู้เสียหายทำการแอดแอปพลิเคชัน WeChat เพื่อแนะนำหุ้นที่ดี จากนั้นจะให้ผู้เสียหายแอดเข้ากลุ่ม 

หน้าที่ที่สอง จะมีการให้ผู้เสียหายแอดเข้ากลุ่มของแอปพลิเคชันใหม่ชื่อ work puls ซึ่งในกลุ่มนั้นจะมีแอดมินที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของคนร้าย ทำหน้าที่ในการแนะนำการลงทุนหุ้น มีการส่งข้อความชักชวนในแต่ละวัน และข้อความที่มีการแนะนำหุ้น

ขั้นนี้ จะให้ผู้เสียหายทำการติดตั้งแอปพลิเคชัน ที่สามารถดูบทเรียนเกี่ยวกับการเล่นหุ้น แต่อาจารย์ที่สอนแนะนำหุ้นนั้น ล้วนเป็นหนึ่งในสมาชิกขบวนการเดียวกับผู้ต้องหา จากนั้นจะมีการเริ่มให้ผู้เสียหายทำการลงทุน ในช่วงแรกจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือ ให้ผู้เสียหายได้รับเงินรางวัลที่เข้าร่วมในการลงทุน ซึ่งจะให้ผู้เสียหายส่งกระเป๋ารับเงินของแอปพลิเคชัน alipay รับรางวัลประมาณ 20-100 หยวน 

และในขั้นตอนที่สาม เมื่อสร้างความน่าเชื่อได้แล้ว จะมีการแนะนำให้ผู้เสียหายลงทุนมากขึ้น และทำการหลอกเอาเงินไปในที่สุด 

พล.ต.ต.พันธนะ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า มีกลุ่มชาวจีน เข้ามาเช่าบ้านหลังดังกล่าว ในราคาเดือนละ 150,000 บาท ต้องสงสัยว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงได้สนธิกำลัง ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยา บุกเข้าตรวจค้น พบชาวจีนทั้งหมด 15 ราย โดย 3 ราย ทำหน้าที่ประจำเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก 

ตรวจสอบเบื้องต้น พบรายชื่อผู้เสียหายกว่าหนึ่งพันรายชื่อ ขณะที่หัวหน้ากลุ่มชาวจีน ให้การอ้างว่า เพิ่งเข้ามาเปิดฐานปฏิบัติการในบ้านหลังดังกล่าว ได้เพียงเพียง 3 วันเท่านั้น ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขยายผล คาดว่า น่าจะมีมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท