เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายเป็น 2,000 ลบ.ม. เตือนท้ายเขื่อนน้ำยกตัว

วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลาง ได้คงเพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นเพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด (09.00 น.) วัดได้ 2,282 ลบ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที) 

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบาย น้ำจากเดิม 1,947 ม./วิ ขึ้นไปที่ 1,999 ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงยกตัวขึ้น 13 ซ.ม.ใน 6 ชม. ล่าสุดวัดได้ 16.09 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 16 ซ.ม.ในรอบ 6 ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.50 ม.รทก. 

ทั้งนี้จากการระบายน้ำในเกณฑ์ 2,000 ลบ.ม./วิ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาทลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-30 ซ.ม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป 

ล่าสุดได้รับรายงานว่า พื้นที่ท้ายเขื่อนฝั่งตะวันออกใน ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก ระดับน้ำเริ่มยกตัวปิ่มตลิ่งทำให้เทศบาลได้นำรถแบคโฮมาทำคันดินกั้นน้ำในพื้นที่ต่ำ และชาวบ้านได้ออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทรายเตรียมพร้อมทำแนวกั้นน้ำอย่างคึกคัก