ผกก.โต้คลิปฉาว!!! กล่าวหาเอี่ยวร้านอาหารเปิดเกินเวลา ทำตร.ชั้นผู้น้อยที่ไปตรวจถูกผู้จัดการร้านอาหารด่ากราด

ผกก.โต้คลิปฉาว!!! กล่าวหาเอี่ยวร้านอาหารเปิดเกินเวลา ทำตร.ชั้นผู้น้อยที่ไปตรวจถูกผู้จัดการร้านอาหารด่ากราด

121527 มิ.ย. 67 20:44   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผกก.ยืนยันไม่มีเอี่ยวหุ้นสถานบริการตามที่่โดนด่า และสั่งเอาเรื่องผจก.ด่าตำรวจ ตามคลิปฉาวทางโซเชี่ยล

(27 มิ.ย. 67) จากกรณีที่ปรากฏข้อความทางโซเชียลว่า “สภ.เมืองร้อยเอ็ด ร้อยเวร 20 ไปปิดร้านไคลแม๊กซ์ มีนายตำรวจระดับ ผกก.เป็นหุ้นส่วน ผจก.ร้านด่ากราดตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะถือว่ามีนายตำรวจระดับ ผกก. เป็นหุ้นส่วน รายงาน ผกก.สภ.เมืองทราบแล้ว แต่ไม่สนใจ น่าสงสารตำรวจชั้นผู้น้อยจริงๆครับ ฝากผู้บังคับบัญชาลงมาปกป้องลูกน้องด้วยครับ”


พร้อมภาพขณะเข้าปฎิบัติหน้าที่ ประกาศสั่งให้สถานบริการ เชิญให้แขกออกจากร้าน เนื่องจากเกินเวลาปิดแล้ว สร้างความไม่พอใจให้กับผู้จัดการร้าน ตระโกนด่าเจ้าหน้าที่ และ กล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากนั้นมีการเขียนข้อความ พาดพิงว่า การที่สถานบริการดังกล่าวเหิมเกริม ด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเห็นแล้วสงสารตำรวจชั้นผู้น้อย ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย กลับถูกผู้จัดการร้าน เหิมเกริมด่าตำรวจที่ไปปฎิบัติหน้าที่ แบบไม่เกรงกลัว และพกดพิงว่า เหตุ ที่เหิมเกริมเช่นนั้น เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรจ ระดับผกก.เป็นหุ้นส่วน จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย 


พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด กล่าวยืนยันว่า ตนเองมาเป็น ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด 1 ปี ยืนยันว่าไม่ได้มีเอี่ยวสถานบริการตามที่พาดพิง และสรุปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ที่ออกตรวจทุกวันอย่างต่อเนื่อง ในสถานบริการ ในเมืองร้อยเอ็ดที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 แห่ง คือโรงเบียร์และ Climax


และเรื่องในคืนเกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 26 คาบเกี่ยวถึงวันที่ 27 ตอนตี 2 ซึ่งก็เข้าไป ตรวจสอบตามปกติ ไม่ให้ เปิดเกินเวลา แต่เมื่อเข้าไปในร้านพบว่า หลังตี 2 ไปแล้ว ก็ยังมีการปล่อยให้แขกนั่งดื่มกินจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องขยายประกาศ ให้เชิญทุกคนออกจากร้าน เพราะเลยเวลากำหนดแล้ว ทำให้ผู้จัดการร้านไม่พอใจ โวยวายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ แล้วพูดจาด่าเขาให้เสียหาย และกล่าวหาว่าตำรวจเลือกปฏิบัติ ไม่ไปตรวจโรงเบียร์ด้วย จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ จนเกิดเหตุดังกล่าว นำไปสู่การโพสต์ข้อความ ว่ามีผู้กำกับเข้าไปเกี่ยวข้อง ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในร้านดังกล่าว 


ซึ่งผู้กำกับยืนยันว่า ทุกอย่างตำรวจทำหน้าที่บังคับใช้ ตามระเบียบกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ร้าน 1 ร้านใด และในคืนเกิดเหตุ ก็มีการแบ่งกำลังออกเป็น 2 สาย เข้าไปตรวจพร้อมๆกันทั้ง 2 ร้าน เพื่อให้ปิดตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นยิ่งขึ้น  


หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เมื่อประมาณวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ร้านทั้ง 2 แห่งก็โดนกองปราบ ร่วมกับปกครอง และตรวจท้องที่ มาจับแล้วรอบนึง เนื่องจาก ปล่อยให้เด็ก อายุต่ำกว่า 19 ปี เข้าไปใช้บริการ และหลังจากการจับกุมครั้งนั้น จังหวัดจึงมีมาตรการร่วมกับปกครอง ออกตรวจเข้มขึ้น ทุกคืน เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้มีการปล่อย ให้เด็กเข้าไปใช้บริการ รวมทั้งให้เปิด และปิดตามเวลา ด้วยความเข้มงวดต่อเนื่องมาทุกวัน  


จนถึงคืนเกิดเหตุ ก็เข้าตรวจตามปกติ และพบพฤติกรรมไม่เหมาะสม ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ที่ไปตักเตือนล้วกลับโดนด่า ล่าสุดทางด้าน ร้อยตำรวจเอก พุฒิพงษ์ โพธิ์ชัย ร้อยเวรสายตรวจ ที่ทำหน้าที่ ก็ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี กับผู้จัดการ ร้าน Climax ซึ่งใช้วาจาไม่เหมาะสม มาดำเนินคดี โดยถอดจากคลิปและคำพูด รวมทั้ง ข้อความที่โพสต์ทางโซเชียล เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


ส่วนกรณีพาดพิงว่ามีผู้กำกับเข้าไปเกี่ยวข้อง ถือหุ้น ในสถานบริการแห่งดังกล่าวนั้น ตนเองยืนยันว่าตลอดเวลา 1 ปี ตนยืนยันว่าตลอดเวลา 1 ปี ที่อยู่ที่นี่ไม่เคยข้องเกี่ยว หรือไปไม่เกี่ยวกับสถานบริการ ใด ทั้งสิ้น ทั้งนี้เนื่องจาก มีระเบียบของกรมตำรวจห้ามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบริการซึ่ง ทำไม่ได้ และ ก็ไม่ ให้ หรือข้องแวะ ทำในสิ่ง ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีนี้นอกจากจะยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว จะให้มีการสอบสวน ข้อเท็จจริงว่า มีผู้กำกับหรือรองผู้กำกับ ในสภ.เมือง ที่ตนดูแลอยู่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ 


ถ้ามีก็จะดำเนินการ เอาผิดทางวินัย กับผู้เกี่ยวข้องทุกคนโดยเด็ดขาด แต่ถ้าหาก ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นหุ้นส่วนกับสถานบริการดังกล่าว เป็นผู้กำกับหรือรองผู้กำกับ นอกพื้นที่ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตนไม่มีอำนาจในการดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย หรือตามระเบียบได้นั้น ก็จะสรุปเสนอไปยัง ผู้บังคับการ หรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป เพื่อสอบสวนลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าไปมีหุ้นส่วน เพื่อดำเนินการตามระเบียบและเอาผิดทางวินัยและตามกฎหมายต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง