รวบเครือข่ายแก๊งแต่งชุดตำรวจวิดีโอคอล ลวงคุณตาวัย 81 โอนเงิน-จำนองบ้านสูญ 22 ล้าน

รวบเครือข่ายแก๊งแต่งชุดตำรวจวิดีโอคอล ลวงคุณตาวัย 81 โอนเงิน-จำนองบ้านสูญ 22 ล้าน

54125 มิ.ย. 67 15:59   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ตร.ไซเบอร์รวบเครือข่ายแก๊งแต่งชุดตำรวจวิดีโอคอล ลวงคุณตาวัย 81 ปีโอนเงินพร้อมจำนองบ้าน หมดตัวกว่า 22 ล้านบาท

วันที่ 25 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรรายงานว่า ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ เข้าจับกุม นางอัจฉรา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวหนองคาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ จ. 528/2567 ลงวันที่ 17 มิ.ย.67 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน

  1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
  2. ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง
  3. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ
  4. เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 


สืบเนื่องจาก กรณีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 67 ได้มีประเด็นบนสื่อโซเชียลมีเดีย กรณีมีคุณปู่วัย 81 ปี อดีตหัวหน้างานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ตกเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน 19 ล้าน บาท จำนองบ้านอีก 3 ล้าน หมดเงิน 22 ล้าน จนอยากจบชีวิตตัวเอง และได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท.ในเวลาต่อมา

โดยคดีนี้ ผู้เสียหายได้ถูกมิจฉาชีพแต่งกายปลอมเป็นตำรวจ วิดิโอคอลมาหลอกว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้พัวพันกับการทุจริต โดยอ้างว่ามีการนำเงินจากการทุจริต มาฝากผ่านบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยมิจฉาชีพแจ้งว่าเงินที่อยู่ในบัญชีของผู้เสียหาย ต้องตกเป็นของกลางในคดีอาญา แต่หากต้องไปสอบสวนที่โรงพักจะลำบาก จึงแนะนำให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอน โดยติดต่อกันผ่านทางแอปฯ Line



จากนั้น มิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ส่งรูปภาพ ที่อ้างว่าเป็นคำสั่งจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งส่งภาพที่อ้างว่า เป็นคำสั่งของสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ผู้เสียหายโอนเงิน หากผู้เสียหายไม่ทำตามขั้นตอน จะถูกดำเนินคดีหรืออายัดทรัพย์ ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพจำนวน 19 ล้านบาท

หลังจากนั้น มิจฉาชีพยังหลอกให้ผู้เสียหาย จำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยอีก 450,000 บาท โดยให้ผ่อนชำระดอกเบี้ยเดือนละ 37,000 บาท และให้คืนเงินต้น 3 ล้านบาทที่เอาบ้านไปจำนองขายฝากไว้ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังได้เงินจากจำนองขายฝากบ้านอีก 3 ล้านบาท ก็ได้โอนเงินให้แก่มิจฉาชีพไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,095,000 บาท 


นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังแจ้งให้โอนเงินเป็นค่าค้ำประกันทรัพย์สิน ที่โอนไปให้มิจฉาชีพอีกจำนวน 2.2 ล้านบาท แต่ไม่มีเงิน จึงปรึกษาลูกชายที่อยู่ต่างประเทศ จึงได้รู้ว่าพ่อน่าจะถูกมิจฉาชีพหลอก จึงรีบกลับประเทศไทยพาพ่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ บช.สอท.ดังกล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :



พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ดำเนินการสืบสวนกรณีดังกล่าว จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้แล้วหลายราย

ต่อมา ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ จนทราบว่า มีหนึ่งในเจ้าของบัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายโอนเงินไป ได้หลบหนี ไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.หนองคาย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนเข้าจับกุม นางอัจฉรา ดังกล่าว


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง