บุกจับหญิงวัย 48 ปี อ้างยากจน-ตกงาน หันมาค้ายาบ้าหาเงินเลี้ยงหลาน 6 ขวบ

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ยังคงมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติด ทั้งการลักลอบนำเข้า และแพร่ระบาดในชุมชน เนื่องจาก ชาวบ้านบางส่วนที่มีฐานะยากจนและตกงาน หวังมารายจากการค้ายาบ้า เพราะปัจจุบันหาง่ายในพื้นที่ชายแดน มีราคาซื้อขายเม็ดละ 10-20 บาท ทำให้มีเอเย่นต์ค้ายาบ้าประจำหมู่บ้าน โดยทหารพราน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พยายามเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งสกัดกั้นตามแนวชายแดน รวมถึงสร้างความร่วมมือกับชุมชนในการแจ้งเบาะแส ทำให้สามารถกวาดล้างจับกุมเครือข่ายในพื้นที่ได้ต่อเนื่อง 

ล่าสุด ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2101 ฉก.ทพ.21 นำกำลังทหารพราน พร้อมหน่วยงานความมั่นคง บุกตรวจค้นจับกุม น.ส.บุญเพ็ง (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาวบ้านโคกสวาท ต.โพนทอง อ.บ้านแพง จ.นครพนม นับเป็นพื้นที่ชายแดน ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด จากการตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนในกางเกงและในบ้านพักพบยาบ้า รวม 157 เม็ด พร้อมเงินสดกว่า 20,000 บาท เชื่อว่า เป็นเงินหมุนเวียนที่ได้จากการค้าขายยาบ้า โดยผู้ต้องหาสารภาพ และเผยว่า รับยาบ้าจากนายทุน ราคาเม็ดละ 20 บาท นำมาขายเม็ดละ 40 บาท อ้างว่า ทำไปเพราะยากจน ตกงาน ไม่มีรายได้

ทั้งนี้ ในการตรวจค้นจับกุม ทหารพรานต้องเจอภาพหดหู่ใจ เนื่องจาก ผู้ต้องหาอาศัยอยู่ในบ้านลักษณะเป็นเพิงพัก สภาพเก่าทรุดโทรม ที่สำคัญ ต้องยังดูแลหลานชายวัย 6 ขวบ เนื่องจาก ลูกสาว(แม่ของเด็ก)ไปทำงานรับจ้าง ที่ กทม. ส่วนหนึ่งอ้างว่า ขายยาบ้า เพื่อนำเงินมาซื้อนมเลี้ยงหลาน รวมถึงใช้จ่ายในครัวเรือน 

ขณะถูกจับกุม ผู้ต้องหายังโทรศัพท์หาลูกสาว แจ้งว่า แม่ถูกจับกุม ให้กลับมารับลูกชาย 6 ขวบ ทำให้ลูกสาวถึงกับร้องไห้โฮ ส่วนเจ้าหน้าที่ ยอมรับว่า ลำบากใจในการจับกุมดำเนินคดี เพราะ "เจ๊เพ็ญ" ยังไกวเปลกล่อมหลานนอน โดยเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไร แต่ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เนื่องจาก ถือเป็นเป็นภัยสังคม หลังจากมีชาวบ้านแจ้งเบาะแส ว่าขายยาบ้ามานานเป็นปี จนชาวบ้านรู้กันทั้งหมู่บ้าน