โดนตีหัวแตกตอนกลางคืน มาเอาคืนตอนเช้าถึงตาย

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.อำนาจ มีทองคำ สารวัตรสอบสวน สภ.ป่าโมก ได้รับแจ้งเหตุ มีชายถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนเสียชีวิต บริเวณกลางซอยศาลเจ้าตลาดป่าโมก หมู่ที่ 2 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน , ตำรวจพิสูตรหลักฐาน , แพทย์-พยาบาล รพ.ป่าโมก และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอ่างทอง 

ที่เกิดเหตุ พบศพนายบอย (สงวนชื่อ-สกุล) อายุ 52 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางซอย บริเวณศีรษะมีบาดแผลถูกของมีคมฟันเป็นแผลขนาดใหญ่ รวมทั้งที่แขนและไหล่ขวา ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบกองเลือดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พบมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร ตกอยู่ใกล้กับกองเลือด พร้อมด้วยเศษไม้แตกหักตกอยู่ คาดว่า หลังถูกทำร้าย นายบอย ได้วิ่งหนีมาได้ประมาณ 20 เมตร ก่อนล้มลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรพล หรือ อู๋ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ได้หลบหนีเข้าไปอยู่ในห้องพักใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณศีษะของนายอู๋ มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง เลือดไหลออกมาเปื้อนใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน  

จาการสอบถามเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีเรื่องชกต่อยกับนายบอย ตนโดนตีหัวแตก ก่อนตำรวจมาในที่เกิดเหตุ ตอนนั้นตนไม่ได้เอาเรื่องกับนายบอย และไม่ยอมทำแผล แต่ยังแค้นฝังใจ ในตอนเช้าพบนายบอย ขี่ จยย.ผ่านมาหน้าห้อง จึงคว้ามีดดาบไปไล่นายบอยจนเสียชีวิตดังกล่าว

จากการสอบถาม นางไรรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีทำงานอยู่โรงน้ำแข็ง ได้เช่าห้องแถวอยู่กับตนที่ท้ายซอย ส่วนผู้ก่อเหตุ เช่าห้องแถวอยู่ด้านหน้า ห่างกันประมาณ 100 เมตร เคยมีปัญหากันมานานมาแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีเรื่องชกต่อยกัน นายอู๋ ผู้ก่อเหตุ โดนตีหัวแตกและได้แยกย้ายกันไป ตอนเช้าตนอยู่ในห้องได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน เมื่อออกมาดู พบว่าสามีถูกนายอู๋ ฟันหัวจนเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่ชาวบ้าน ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุทำงานรับจ้างทั่วไป อาศัยอยู่คนเดียว หลังจากเมียหนีไป ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ในซอย เบื้องต้น ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ไปทำบาดแผลที่โรงพยาลและทำการสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป